จัดการกับผู้เล่นที่มักจะ Call จากตำแหน่งที่ได้เปรียบ

ผู้เล่นทางด้านซ้ายของคุณ คือผู้เล่นที่สร้างปัญหาให้กับคุณมากที่สุด! โดยเฉพาะ ในกรณีที่เขาเป็นผู้เล่นที่คาดเดาได้ยาก และมักจะเล่นด้วยการ Call คุณในรอบ Pre-Flop และไม่คิดที่จะยอมแพ้ หรือ หมอบ ในรอบต่อๆไป ทำให้คุณต้องตัดสินใจยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจนในบางครั้งคุณอาจต้องยอมแพ้ เนื่องจากตำแหน่งที่เสียเปรียบในการเล่นกับเขา ทำให้แผนการเล่นต้องถูกจำกัด บนบอร์ดที่เปิดขึ้นมาไม่เข้าทางผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Aggressive Pre-Flop  …

 

ในบทความนี้เราจะนำเสนอวิธีการเล่นที่ถูกต้อง และเปลี่ยนแผนการเล่นของเขาที่ได้เปรียบให้กลับมาเป็นประโยชน์สำหรับคุณ

 

เรามาทำความเข้าใจจากตัวอย่าง
เราจำลองการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ โดยให้คุณอยู่ในตำแหน่ง CO และ คู่ต่อสู้ อยู่ในตำแหน่ง Button ซึ่งคุณเป็นฝ่าย Open-Raise Pre-Flop และ คู่ต่อสู้ Call บนบอร์ด เช่น 9♥6♥6♦,  T♥3♥2♦ ….

ที่เราเลือก Flop ในตัวอย่างดังกล่าวข้างต้นเนื่องจากเป็นบอร์ดที่ไม่ได้เอื้อให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ เช่น บอร์ดที่มี A หรือ K ที่จะทำให้ Range ของ ฝ่ายที่ Open-Raise แข็งแกร่งและสามารถเล่นได้ง่ายกว่าแม้จะเสียเปรียบตำแหน่งก็ตาม บนบอร์ดดังกล่าวนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่สามารถที่จะ Call เพื่อเล่นต่อได้ง่าย

 

บอร์ดที่เอื้อให้ C-Bet Flop

โดยทั่วไปเราพบว่า Aggressor มี Equity และ Nuts Advantages ที่เหนือกว่าบนบอร์ด 9♥6♥6♦ เนื่องจากเขาสามารถมี 6x และ Over-Pair ได้มากกว่าใน Range ของเขา ซึ่งทำให้ Range ของเขาแข็งแกร่งมากๆ บนบอร์ดนี้  ดังภาพแสดง Equity Distribution ด้านล่าง ทำให้ CO สามารถ C-bet ได้ถึง ½ ของ Range ในขนาด ½ ของ Pot

 

 

มีเพียงตำแหน่งในการเล่นที่ได้เปรียบเท่านั้นที่ทำให้ผู้เล่นตำแหน่ง BTN สามารถตัดสินใจเล่นต่อได้โดยหวังว่าไพ่ในรอบต่อไปที่ Turn จะทำให้กลับมาได้เปรียบได้ แต่เนื่องจากผู้เล่นทั้งสองฝ่ายมี Range ในการเล่นที่กว้างมาก ทำให้มีไพ่เพียงไม่กี่ใบที่ Turn เท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ของเกมได้มาก

 

ซึ่งหากคุณสามารถคาดเดาแผนการเล่นของคู่ต่อสู้ได้ว่าเขามักจะ Call หรือ Fold มากกว่าปกติ นั่นสามารถช่วยให้คุณใช้ข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการเล่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้

 

เนื่องจากคู่ต่อสู้เป็นผู้เล่นที่มักจะ Call จากตำแหน่งที่ได้เปรียบและมองหาโอกาสที่จะกดดันเอาชนะคุณ ทำให้ในการเล่นคุณไม่ควรที่จะเล่นด้วยไพ่ที่ยังไม่มีติดอะไรเลย หรือ Pure-Bluff ที่จุดนี้ อย่างน้อยคุณควรนำไพ่ Semi-Bluff ที่มี Equity 25-50% มาใช้ในการเล่นของคุณ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ

  • ไพ่ใน Range ส่วนใหญ่ของคู่ต่อสู้มี Equity มากพอที่จะเล่นต่อด้วยการ Call มากกว่า Check/Fold ดังนั้นการเลือก Bet ด้วยไพ่ที่ดีของคุณเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ Call ด้วยไพ่ที่อ่อนแอใน Range ของเขาต่อไปเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้น
  • การ Call ด้วยไพ่ที่กว้างมากๆ ของ BTN ทำให้ในการเล่นที่ Turn มีไพ่ที่อ่อนแอมากๆ ซึ่งหมายความว่า การ Bet ด้วยไพ่ที่มี Equity ไม่มากนัก สามารถ Bet ต่อที่ Turn ทำให้ไพ่เหล่านี้ต้องหมอบได้

 

C-Bet ต่อเนื่อง ในการเล่นที่ Turn

เราจำลองไพ่ที่เปิดขึ้นที่ Turn นี้คือ 2♣

ความแตกต่างที่สำคัญในการเล่นที่จุดนี้คือขนาด Bet-Size ที่ใช้ในการเล่น ที่ควรเลือกขนาดที่เล็กกว่า ½ ของ Pot ด้วยเหตุผลที่ต้องการโจมตีไปยังไพ่ที่อ่อนแอมากๆใน Range ของ BTN ที่ไม่คุ้มค่าที่จะเล่นต่อแม้จะมีอัตรา Pot-Odd ที่ 3:1 อย่างเช่น Backdoor ต่างๆ ที่ขณะนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้แล้ว เช่น A♠8♠ หรือ K♥J♠

 

คุณอาจใช้ขนาดที่แตกต่างออกไปได้บ้าง แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดๆ เนื่องจาก ในแง่ของ Exploitative คุณที่ตำแหน่ง CO เข้ามาเล่นด้วยไพ่ที่กว้าง ยกตัวอย่างเช่น คุณเลือกที่จะ All-in  ประมาณ 18% ของไพ่ใน Range แต่ในความเป็นจริง คู่ต่อสู้อาจมองว่าคุณ All-in ด้วยไพ่ที่กว้างมากกว่านั้น เช่นไพ่ A9 ที่ เป็น Top-Pair หรือ ไพ่ที่ยังไม่ติดอะไรเลย มีเพียง Draw อยู่เท่านั้นก็ได้ เนื่องจากการ C-Bet ที่ Flop เอื้อให้ไพ่ดังกล่าวสามารถเล่นในลักษณะนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น ไพ่ AT ,KT, QT, and JT ที่มี Backdoor

 

บทสรุป

ผู้เล่นที่พยายามเล่นกับคุณจากตำแหน่งที่ได้เปรียบมีลักษณะในการเล่นที่หลากหลายรูปแบบ บ้างก็เป็นผู้เล่นประเภท Loose-Passive และ ยังเป็น Calling Station อีกด้วย ทำให้เขาต้องการที่จะเข้าไปดูว่าไพ่ของเขาสามารถแข็งแกร่งหรือทำกำไรจากคุณได้ไหม ในราคาที่ถูกที่สุด หรือ บางคน ก็มองหาโอกาสจากตำแหน่งที่ได้เปรียบ หาข้อมูลจากการเล่นของคุณเพื่อฉวยโอกาสกดดัน ลักไก่ ด้วยการ Bluff / Raise เมื่อคุณแสดงความอ่อนแอในการเล่น คุณจึงต้องใช้การอ่านเกมที่ดีเพื่อให้คุณสามารถจัดการกับผู้เล่นเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง

 

อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรกังวลว่าจะต้องอ่านคู่ต่อสู้ได้อย่างถูกต้องที่สุดอยู่ตลอดเวลาที่จะสามารถทำกำไรในการเล่นได้ คุณเพียงสังเกตได้ว่าคู่ต่อสู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณ Call มากจนเกินไป หรือน้อยเกินไป เพื่อที่จะโจมตีได้อย่างถูกต้อง

 

เมื่อเขามักจะ Call กว้างมากจนเกินไป คุณควร Bet ให้ถี่ขึ้น อย่างเช่นตัวอย่างในบทความนี้ ที่คุณควรใช้ Range ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งรวมถึง Semi-Bluff ด้วย Value Bet เพื่อทำกำไรจากไพ่ที่อ่อนแอของคู่ต่อสู้

 

หลังจากนั้นในการเล่นรอบต่อไปทำให้คุณสามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่องจากไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณและยังรวมถึงไพ่ที่เป็น Bluff ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้คุณได้เปรียบจากคู่ต่อสู้ไม่ว่าเขาจะตอบสนองต่อคุณอย่างไรก็ตาม

Share to