Patrick Leonard กับการสังเกตแนวโน้มใหม่ในวงการโป๊กเกอร์

ครั้งสุดท้ายที่ผู้เขียน Patrick Leonard ได้กลับไปที่ Las Vegas (เมืองที่มีเกมการแข่งขันโป๊กเกอร์มากที่สุด) หลังจากสิ้นสุดการแข่งขันโป๊กเกอร์รายการใหญ่ที่ PokerStars ได้จัดขึ้นที่ Cyprus ในชื่อ North American Poker Tour (NAPT)

 

NAPT จัดขึ้นที่ Resorts World ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานที่ยอดเยี่ยม มีเกมโป๊กเกอร์ที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าทั้งสองรายการแข่งขัน ระหว่าง European Poker Tour (EPT) และ NAPT จะมีโครงสร้างการแข่งขันเดียวกัน แต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก เพราะเมื่อเหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 35 คนในการแข่งขันหลัก (Main Event) ขณะที่คุณมองไปรอบ ๆ ไม่มีผู้เข้าแข่งขันคนใดที่มีอาการตื่นเต้นเลย นั่นเป็นเพราะ ไม่มีการถ่ายทอดการแข่งขัน ไม่มีผู้สื่อข่าวคอยรายงานข่าว ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ๆ

 

ความแตกต่างในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา

ในวันเดียวกันนั้นเอง ความทรงจำแปลก ๆ เกี่ยวกับ Facebook ได้ย้อนกลับมา และทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า เคยทำงาน Podcast กับ Joe Ingram และเป็นที่ปรึกษาให้กับเว็บไซต์โป๊กเกอร์แทบทุกแห่ง เราคุยกันเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโป๊กเกอร์ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

ในตอนนั้น เว็บไซต์โป๊กเกอร์ยังไม่มีการนำผู้เล่นมืออาชีพมาสังกัดทีมของตนเอง และเงินส่วนใหญ่ที่ใช้ทำการตลาดถูกนำไปใช้กับการโฆษณาโดยการจ้างพรีเซนเตอร์ เป็นนักกีฬาฟุตบอลระดับโลกอย่าง Neymar และ Ronaldo เพื่อหวังจะทำให้โป๊กเกอร์สามารถขยายความนิยมออกไปได้มากยิ่งขึ้น

 

แต่ในทางกลับกัน การจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ กลับขาดความน่าสนใจ เพราะพรีเซนเตอร์เหล่านั้นไม่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงหลังชัยชนะ หรืออยู่ร่วมการแข่งขันได้

 

หลังจากนั้น อุตสาหกรรมโป๊กเกอร์จึงได้ มีการปรับปรุงไปในทางที่ถูกต้องเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน การแข่งขันระดับโลกจึงเต็มไปด้วยผู้เล่นมืออาชีพที่สังกัดทีมต่าง ๆ อย่างเช่น Jason Koon, Sam Grafton, Lex, Fintan, Spraggy, Tonka, Maria ฯลฯ

 

งานทั้งหมดดูเป็นกันเองและอบอุ่นมาก SCOOP และ WCOOP ยังคงเป็น เป้าหมายของผู้เล่นมืออาชีพที่จริงจังทุกคน แม้ว่าจะมีปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับกฎระเบียบของบางประเทศที่ไม่สามารถจัดการแข่งขันให้กระจายไปทั่วทุกมุมโลกได้ แต่พวกเขาก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ เราจึงอยากสนับสนุนพวกเขาต่อไป

 

การเล่นโป๊กเกอร์ในระดับ High-Stakes เปิดให้เล่นได้เฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน บางการแข่งขันได้ประกาศ และดำเนินการให้เกมเดิมพันในระดับสูง (High-Stakes) เป็น “เกมพิเศษ (Exclusive) สำหรับผู้เล่น VIP” โดยผู้ที่จะเข้าเล่นได้ จะต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น หรืออาจมองได้ว่า เป็นการเลือกรับเฉพาะ “มืออาชีพที่ดีที่สุดเท่านั้น” ที่สามารถเข้าถึงเกมที่ดีที่สุดในโลกได้

 

เรื่องนี้ได้รับผลตอบรับเชิงลบอย่างมาก เราสามารถหาความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดอะไรมากนัก

 

เนื่องจากโป๊กเกอร์เป็น ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยค่าธรรมเนียมสูง (High Rake) และอัตราการชนะที่ต่ำ จึงมีการเลือกที่จะคืนเงินค่าธรรมเนียมกลับไปเพื่อ รักษาฐานผู้เล่น VIP

 

ลองนึกภาพสถานการณ์ 2 สถานการณ์นี้:

  1. ผู้เล่น VIP เล่น 500 มือกับผู้เล่นอาชีพ 5 คน และเสียเงินไป $100,000
    • สมมุติว่าผู้เล่น VIP คนนั้นมี VPIP ประมาณ 30%
    • หมายความว่า เขาจะเล่นประมาณ 150 มือ
    • เมื่อนำมาคิดรวมกับค่าธรรมเนียมที่ $2 ต่อมือ
    • คาสิโนจะได้ค่าธรรมเนียม (รายได้) เพียง $300 เมื่อผู้เล่น VIP คนนั้นหมดตัว
  1. ผู้เล่น VIP เล่น Blackjack 500 มือและเสียเงิน $100,000
    • เงินทั้งหมดนี้จะเข้าไปที่คาสิโน

 

นี่คือการปิดกั้นผู้เล่นมืออาชีพหรือไม่?

ในความคิดเห็นของผม นี่ไม่ใช่การหลอกลวงผู้เล่น และ ไม่ใช่การ “พยายามปิดกั้น” ผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพ มันเป็นเพียงแค่กลยุทธ์ทางธุรกิจ

แต่แทนที่จะใช้ เกมเดิมพันสูง (High-Stakes) เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้เล่นทั่วโลก และเพื่อให้ได้ ส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น การทำเช่นนี้กลับ ทำให้เกมขาดความน่าสนใจ

ดังนั้นพวกเขาอาจต้องกลับมาทบทวน แผนการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่าการจำกัดการเข้าถึงเกมระดับสูง

Share to