เรียนรู้การวางกลยุทธ์ตามตำแหน่งและรอบการเล่น (Preflop, Flop, Turn, River)

เรียนรู้การวางกลยุทธ์ตามตำแหน่งและรอบการเล่น

เมื่อเข้าใจความสำคัญของตำแหน่งแล้ว ขั้นต่อไปคือการเรียนรู้วิธีปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับแต่ละ “รอบการเล่น” (Betting Rounds) ในเกมโป๊กเกอร์ ซึ่งแต่ละรอบจะมีข้อมูลและสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

1. พรีฟล็อป (Preflop):

  • ความหมาย: รอบแรกของการเดิมพันหลังจากผู้เล่นทุกคนได้รับไพ่โฮล (Hole Cards) 2 ใบ และก่อนที่ไพ่กองกลาง (Community Cards) จะถูกเปิด
  • กลยุทธ์ตามตำแหน่ง:
    • Early Position (EP): เล่นไพ่เริ่มต้น (Starting Hands) ที่แข็งแกร่งมากเท่านั้น เช่น AA, KK, QQ, AKs (suited) เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดข้อมูล
    • Middle Position (MP): สามารถเพิ่มความหลากหลายของไพ่ที่เล่นได้เล็กน้อย เช่น JJ, TT, AQs, AQo (offsuit), KQs
    • Late Position (LP): ได้เปรียบที่สุด สามารถเล่นไพ่ได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงไพ่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา (Speculative Hands) เช่น Suited Connectors (เช่น 78s) หรือ Small Pocket Pairs เพราะมีข้อมูลจากการเล่นของคนอื่นก่อนหน้า และสามารถใช้ตำแหน่งในการควบคุม Pot หรือทำการบลัฟได้
    • Blinds (SB, BB): มักจะต้องป้องกัน Blinds ด้วยการ Call หรือ Reraise กับไพ่ที่กว้างกว่าปกติเล็กน้อยหาก Pot Odds เอื้ออำนวย แต่ต้องระวังไม่ให้ติดกับ (Trap) ตัวเองด้วยไพ่ที่ไม่ดี

2. ฟล็อป (Flop):

  • ความหมาย: ไพ่กองกลาง 3 ใบแรกถูกเปิดออก ผู้เล่นจะประเมินความแข็งแกร่งของไพ่ในมือเมื่อรวมกับไพ่กองกลาง
  • กลยุทธ์:
    • Continuation Bet (C-Bet): หากคุณเป็นผู้ Raise ในรอบ Preflop การเดิมพันต่อในรอบ Flop เป็นกลยุทธ์ทั่วไปเพื่อแสดงความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
    • ประเมินไพ่: ดูว่าไพ่ Flop ช่วยไพ่ในมือคุณหรือไม่ (เช่น ได้คู่, ได้ตอง, ติดสี, ติดสเตรท) และไพ่ Flop นั้นเป็น “Dry Board” (ไพ่ไม่สัมพันธ์กัน) หรือ “Wet Board” (ไพ่สัมพันธ์กันสูง มีโอกาสติดสี/สเตรทเยอะ)
    • ตำแหน่ง: ผู้เล่นในตำแหน่ง (In Position) จะได้เปรียบในการดูท่าทีของคู่แข่งก่อนตัดสินใจ

3. เทิร์น (Turn):

  • ความหมาย: ไพ่กองกลางใบที่ 4 ถูกเปิด ทำให้ไพ่ในมือและโอกาสต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง
  • กลยุทธ์:
    • Re-evaluate: ประเมินความแข็งแกร่งของไพ่คุณอีกครั้ง ไพ่ Turn อาจทำให้ไพ่ของคุณดีขึ้นหรือแย่ลง หรืออาจทำให้ไพ่ของคู่แข่งพัฒนาขึ้น
    • Pot Control: หากคุณมีไพ่ที่ค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับดีที่สุด อาจพิจารณา Check เพื่อควบคุมขนาด Pot
    • Semi-Bluff: หากคุณมีไพ่ที่ยังไม่ติด แต่มีโอกาสพัฒนาเป็นไพ่ที่แข็งแกร่ง (เช่น ติดสีหรือสเตรท) การเดิมพัน (Semi-Bluff) อาจทำให้คู่แข่งหมอบ หรือหากถูก Call ก็ยังมีโอกาสชนะในรอบถัดไป

4. ริเวอร์ (River):

  • ความหมาย: ไพ่กองกลางใบที่ 5 และเป็นใบสุดท้ายถูกเปิด ผู้เล่นจะเห็นไพ่ทั้งหมดและทำการตัดสินใจเดิมพันครั้งสุดท้าย
  • กลยุทธ์:
    • Value Betting: หากคุณมั่นใจว่ามีไพ่ที่ดีที่สุด ควรเดิมพันเพื่อดึงเงินจากคู่แข่งให้ได้มากที่สุด
    • Bluffing: หากคุณคิดว่าคู่แข่งมีไพ่ที่ไม่แข็งแรงและอาจจะหมอบ การบลัฟในรอบ River อาจได้ผล แต่ก็มีความเสี่ยงสูง
    • Bluff Catching: หากคุณมีไพ่กลางๆ แต่สงสัยว่าคู่แข่งกำลังบลัฟ การ Call เพื่อ “จับบลัฟ” อาจเป็นการเล่นที่เหมาะสม
    • การตัดสินใจ: ไม่มีโอกาสพัฒนาไพ่แล้ว การตัดสินใจในรอบนี้คือการประเมินความแข็งแกร่งของไพ่คุณเทียบกับคู่แข่ง และตัดสินใจว่าจะ Bet/Raise, Call หรือ Fold

การเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามตำแหน่งและรอบการเล่นต่างๆ ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ ยิ่งคุณเข้าใจพลวัตเหล่านี้มากเท่าไร การตัดสินใจของคุณก็จะยิ่งเฉียบคมมากขึ้นเท่านั้น

Share to

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทัวร์นาเมนต์ล่าสุด