การเลื่อนขึ้นไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่มีระดับสูงขึ้นนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเป็นมือใหม่ในการเล่นทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ ซึ่งเราไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อใดเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากคำตอบที่ดีที่สุดนั้น “ขึ้นอยู่กับ” ปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น เงินทุน ผลงานที่ผ่านมา ความมั่นใจ และเป้าหมายของคุณในเกม มันเป็นเรื่องปกติมากที่แม้แต่ผู้เล่นที่ดีที่สุด ก็สามารถที่จะล้มเหลวได้หลายครั้งก่อนที่จะสามารถก้าวข้ามไปสู่ขีดจำกัดใหม่ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่มีระดับสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการแข่งขันโป๊กเกอร์
- คุณต้องมีเงินทุน (Bankroll) และ บริหารมันได้อย่างถูกต้อง
แน่นอนว่าเงินทุน (Bankroll) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอเมื่อต้องเลื่อนระดับขึ้น คุณควรเพิ่มเงินทุนของคุณให้ถึงระดับที่คุณสามารถแข่งขันได้เสียก่อน แล้วคุณควรเลื่อนระดับขึ้นเมื่อใด? .. เนื่องจาก การแข่งขัน Tournament Poker มีความแปรปรวน หรือผันผวน (variance) สูง เราจึงต้องพิจารณาปัจจัย ต่างๆ ให้ครบถ้วนดังนี้
- รูปแบบของ Tournament
- Multi-Table Tournament (MTT): มีความแปรปรวนสูงเพราะผู้เล่นจำนวนมาก
- Sit & Go (SNG): ความแปรปรวนต่ำกว่า MTT
- Turbo หรือ Hyper-Turbo: ระยะเวลาสั้น เพิ่มความแปรปรวน
- สไตล์การเล่นของคุณ
- หากคุณเล่นแบบ Aggressive อาจต้องการ Bankroll มากกว่า เพราะมีโอกาสต้องออกจากการแข่งขันในระยะสั้น
- ผู้เล่นที่เน้นความปลอดภัย (Conservative) อาจลดความเสี่ยงได้ดีขึ้น
- เงินรางวัล (Payout Structure)
- ยิ่ง Tournament มีการจ่ายเงินรางวัลน้อยคน (Top Heavy) ยิ่งต้องมี Bankroll มากขึ้น
- หากจ่ายรางวัลหลายคน (Flat Payout) อาจต้องการ Bankroll ต่ำกว่า
- ความถี่ในการเล่น
- หากคุณเล่น Tournament บ่อยครั้ง จะเจอกับความแปรปรวนสูง ควรเพิ่มขนาด Bankroll ให้เหมาะสม
แนวทางการกำหนด Bankroll
- สำหรับ MTT (Multi-Table Tournament) แนะนำ ให้คุณควรมี Bankroll ในขนาด 100–200 Buy-in
- เช่น ถ้า Tournament มี Buy-in $10 คุณควรมี Bankroll $1,000–$2,000 เนื่องจากความแปรปรวนใน MTT สูง เนื่องจากส่วนใหญ่จ่ายรางวัลให้เพียง Top 10%-15% ของผู้เข้าแข่งขัน
- สำหรับ SNG (Sit & Go) แนะนำ ให้คุณควรมี Bankroll ในขนาด 30–100 Buy-in
- เช่น ถ้า Tournament มี Buy-in $20 คุณควรมี Bankroll $600–$2,000 เนื่องจาก ความแปรปรวนต่ำกว่า แต่ก็ยังมีโอกาสตกรอบหลายครั้งติดกัน
- สำหรับ Turbo/Hyper-Turbo Tournament แนะนำ ให้คุณควรมี Bankroll ในขนาด 150–300 Buy-in
- เช่น ถ้า Tournament มี Buy-in $50 คุณควรมี Bankroll $7,500–$15,000 เนื่องจาก เป็นทัวร์นาเมนต์ ที่มีความเร็วทำให้มีความแปรปรวนสูงมาก
- สำหรับ Satellite Tournament แนะนำ ให้คุณควรมี Bankroll ในขนาด 100–200 Buy-in
- Satellite คือ Tournament เพื่อชิงตั๋วเข้าเล่นรายการใหญ่ หากชนะแล้วไม่ได้เงินทันที ควรมี Bankroll เผื่อไว้
ตัวอย่างการคำนวณ:
– คุณมีเงิน $5,000
– คุณสามารถเล่น MTT ที่มี Buy-in $25 ได้อย่างสบาย เพราะคุณมี Bankroll 200 Buy-ins
– แต่หากต้องการเล่น Turbo Tournament คุณอาจต้องเล่นรายการที่ Buy-in ต่ำกว่า เช่น $10-$20
ดังนั้น Bankroll จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณสามารถขยับขึ้นไปแข่งขันทัวร์นาเมนต์ในรายการที่มีค่าสมัครสูงขึ้นได้เมื่อใด
- คุณมีทัศนะคติ และความมั่นใจที่ถูกต้อง
ผู้เล่นโป๊กเกอร์ที่ผ่านชัยชนะในการแข่งขันเกือบทั้งหมดมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกันอย่างหนึ่ง นั่นคือ พวกเขามีความมั่นใจมากในความสามารถของตัวเองที่โต๊ะโป๊กเกอร์
อย่างไรก็ตาม โป๊กเกอร์มีทั้งช่วงที่ประสบความสำเร็จ และ ล้มเหลว มากมาย จึงถือเป็นเรื่องปกติที่ใครก็ตามจะสูญเสียความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองเมื่อตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีเป็นเวลานานๆ
ในทางกลับกัน เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ผู้คนส่วนใหญ่จะมั่นใจในความสามารถของตัวเองเกินจริง แม้ว่าพวกเขาโดยส่วนใหญ่จะยังเป็นผู้เล่นที่มีรายได้ติดลบในระยะยาวก็ตาม
เมื่อพูดถึงการเข้าไปแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น จะดีกว่ามากหากคุณทำเมื่อคุณมีความมั่นใจในด้านดี
คุณควรเล่นได้ค่อนข้างดีหรืออย่างน้อยก็ปกติ และรู้สึกมั่นใจว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีกว่าผู้เล่นอื่นในระดับปกติของคุณ คุณควรรู้สึกว่าคุณสามารถกลับมาที่ขีดจำกัดนี้ได้ตลอดเวลาในอนาคตและสามารถชนะได้อีกครั้ง
คุณไม่ควรแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นในช่วงขาลง แม้ว่าคุณจะรู้ว่าคุณเป็นผู้ชนะในระยะยาวก็ตาม ความมั่นใจนำมาซึ่งความสำเร็จ และจะดีกว่าหากคุณกล้าเสี่ยงกับขีดจำกัดใหม่เมื่อคุณมีความคิดที่ชัดเจนและมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในความสามารถของคุณ
- อย่าเปลี่ยนแผนการเล่นของคุณเมื่อเริ่มต้นในระดับที่สูงขึ้น
ตอนนี้คุณมีเงินทุน และทัศนะคติที่ถูกต้องแล้ว คุณควรเริ่มต้นเล่นในระดับที่สูงขึ้นอย่างไร?
สิ่งสำคัญคือคุณต้องไม่เปลี่ยนแผนการเล่นของคุณ! แน่นอนว่าคุณพบกับผู้เล่นใหม่ๆ พร้อมกับเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เกมก็ยังคงเหมือนเดิม และความจริงก็คือในระดับใหม่นี้มีความแตกต่างจากระดับที่คุณเพิ่งขยับขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแตกต่างคือกลยุทธ์ที่ดุดัน (Aggressive) มากขึ้น
เกมใหม่นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่จะกดดันคุณโดยเฉพาะเท่านั้น ที่คุณต้องทำก็เพียงแค่สังเกตว่าการแข่งขันในระดับใหม่ของคุณ ผู้เล่นต่างๆเหล่านั้นมีแผนการเล่นอย่างไร ทำความรู้จักกับแนวโน้มของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และทำในสิ่งที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จมาจนถึงจุดนี้ เมื่อถึงเวลาคุณจะรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับการแข่งขันในระดับใหม่ของคุณ จนคุณมีข้อมูลมากขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเล่นตามคู่ต่อสู้แต่ละคนได้
- สร้างโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อประสบความสำเร็จ
การให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่ตัวเองเพื่อประสบความสำเร็จนั้นถือเป็นความคิดที่ดีเช่นกัน
- เลื่อนอันดับเมื่อเกมดี
- ตัดสินใจเลือกเกมโป๊กเกอร์ที่มีคุณภาพสูงสุด
สำหรับการค้นหาเกมที่เหมาะสม มองหาผู้เล่นที่มีทักษะน้อยกว่าคุณ ถึงแม้คุณจะไม่สามารถเลือกโต๊ะในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ได้ ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะการแข่งขันให้กับคุณ
ประการแรก ให้มองหาการแข่งขันในวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นที่เล่นโป๊กเกอร์เพื่อความสนุกสนานมักจะเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์มากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่พวกเขาได้หยุดงาน เกมต่างๆ มักจะดีกว่าเล็กน้อยในวันเสาร์และอาทิตย์ไม่ว่าจะมีขีดจำกัดหรือไม่ก็ตาม
ประการที่สอง ให้เล่นในช่วงเวลาที่มีผู้เข้าแข่งขันเยอะๆ ซึ่งอาจเป็นช่วงหัวค่ำ ไปจนถึงช่วงดึก
สุดท้ายหากคุณแข่งขันทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ทางออนไลน์ให้คุณสมัครแข่งขันหลายๆรายการเพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้กับคุณมากขึ้น
สรุปบทความ
การเลื่อนระดับขึ้นไปแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น เป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับผู้เล่นโป๊กเกอร์ทุกคน ยิ่งคุณสามารถเล่นในระดับที่สูงขึ้นมากเท่าใด คุณก็จะสามารถทำเงินรางวัลได้สูงมากขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเลื่อนระดับขึ้นไป มันก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันก็เข้มข้นขึ้นและโอกาสชนะก็น้อยลง นี่คือสาเหตุที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงเล่นอยู่ในระดับเดิม
คุณต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าเหนือคู่แข่งของคุณ