ในโป๊กเกอร์ มือ Straight Draw มักเป็น “อาวุธบลัฟ” ที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เพราะมีโอกาสติดสเตรทเท่านั้น แต่เพราะมันสามารถ “พรางพลัง” ได้อย่างแนบเนียน และบ่อยครั้งยัง “บล็อก” มือแข็งของคู่ต่อสู้ในหลาย Texture อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกที่โปรระดับสูงจะใช้มือพวกนี้ทำเงินได้มากที่สุด
บทความนี้จะพาไปดูสองตัวอย่างจากสมาชิก The Poker Lab ที่ใช้ Straight Draw Semi-Bluff ในสถานการณ์ต่างกัน ทั้งแบบ Deep Stack และ Short Stack เพื่อดูว่าโปรคิดอย่างไรเมื่อบลัฟด้วย Draw แบบนี้
ตัวอย่างที่ 1: Straight Draw Semi-Bluff
สถานการณ์:
- Hero อยู่ตำแหน่ง CO ถือ J♣9♠
- UTG หมอบ → Hero เปิด 2.86BB → SB คอล → ที่เหลือหมอบ
โดยทั่วไปการเปิด J9 Offsuit จาก CO ถือว่า “หลวมเกินไป” แต่ในกรณีนี้ Hero อ่านว่ามีผู้เล่นอ่อนในบลายด์ จึงเปิดเพื่อเล่นกับเขาในตำแหน่งได้สมเหตุสมผลกว่า
ทั้งนี้ ขนาดการเปิด 2.86BB ค่อนข้างใหญ่เกินไป เมื่อเทียบกับ Range การเปิดที่กว้าง เพราะยิ่งเปิดใหญ่ เรายิ่งเสี่ยงเวลาโดน 3-bet และเสียโอกาส Steal ควรเปิดระหว่าง 2.25–2.5BB จะเหมาะกว่า
Flop (6.72BB): T♠ 8♦ 2♦ SB Donk Bet 5.04BB → Hero Raise 17.64BB → SB Call
บอร์ดนี้ให้เรา Open-Ended Straight Draw และเจอคู่ต่อสู้ Donk-Lead ใหญ่ (~80% Pot) ซึ่งถือว่าไม่ปกติ ต้องประเมินก่อนว่าจะตอบสนองอย่างไร
แนวคิดสำคัญ:
- ถ้าเป็น Donk Bet เล็กๆ (≤1/3 Pot) ให้ถือเหมือน Check เราต้องคอลบ่อย เพราะ Pot Odds ดีมาก
- ถ้าเป็น Donk ใหญ่ อย่างในมือนี้ ต้องรัดกุมมากขึ้น จำกัดมือที่จะคอลหรือเรส
สำหรับบอร์ดนี้ เรนจ์ที่สามารถ Raise for Value ได้คือ AT, JJ+, T8s, 88, 22 (แต่ไม่รวม TT เพราะ Block Top Pair ที่คู่ต่อสู้คอลได้) รวมประมาณ 41 Combos ของ Value ซึ่งน้อยมาก ทำให้ต้อง “เลือก” บลัฟอย่างระมัดระวัง
ทำไม J9 เหมาะกับการ Semi-Bluff?
- เป็น Open-Ended สามารถติด Nuts ได้สองทาง
- ไม่มี Showdown Value เลย
- Block คอมโบ Top Pair ของคู่ต่อสู้ (เช่น JT, T9) ถึง 6 Combos
ดังนั้นจึงเป็นมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Semi-Bluff
Turn (42BB): 4♦ SB Check → Hero Bet 21BB → SB Call
เทิร์นนี้ Flush ติด ซึ่งเป็นข่าวร้ายกับ J9 Offsuit ถ้าเรายังจะยิงต่อ ควรเลือกมือที่มี Blocker ดอกเดียวกัน (J♦9x) มากกว่า เพราะลดโอกาสที่อีกฝั่งมี Flush จริง และมี Equity ลุ้นต่อได้เอง แต่ J9 Offsuit ไม่มี Diamond ควรเช็กเบรกไว้
River (84BB): A♣ SB Check → Hero Shove 32.54BB All-in → SB Call
จุดนี้เป็น River ที่ “ไปได้ทั้งสองทาง” เพราะขนาดเบ็ตต่ำกว่า ½ Pot ต้องให้หมอบแค่ ~25% ถึงคุ้ม แต่ในเรนจ์ของเรามีมืออื่นที่เหมาะจะบลัฟกว่านี้ จึงไม่ถือว่าจำเป็นต้องยิงเสมอ เป็นสถานการณ์เฉพาะที่ผลลัพธ์ไม่ถึงกับเปลี่ยนเกม แต่เป็นตัวอย่างชัดของการวิเคราะห์ตรงจุดของ Semi-Bluff
ตัวอย่างที่ 2: Straight Draw Semi-Bluff (Short Stack Tournament)
สถานการณ์:
- เกม 8-handed Tournament
- Blinds 1,000/2,000/200
- Hero อยู่ UTG+2 ถือ 6♣5♣
- Hero เปิด 4,200 (Stack 70K) → HJ คอล (55K) → BTN คอล → BB คอล (60K)
Flop (17,800): 7♠ 4♦ 2♥ BB Check → Hero Bet 8,500 → HJ Call → BTN Fold → BB Call
ในสถานการณ์ Tournament ที่ Effective Stack ~28BB การ C-bet ด้วย 6♣5♣ นับว่า “เสี่ยงเกินไป” เพราะถึงจะมี Open-Ended แต่การยิงอาจทำให้เรา “Commit” ตัวเองโดยไม่จำเป็น และยังต้อง Fold ถ้าโดน Raise ทั้งที่มี Equity สูง
ดังนั้น เช็คกลับ จึงดีกว่า เพราะช่วยให้เรา “Realize Equity” ได้มากขึ้น
ในทางกลับกัน ถ้าเป็นสถานการณ์ Short (<15BB) หรือ Deep (>80BB) การยิง C-bet ด้วยมือแบบนี้จะมีเหตุผลมากกว่า
ถ้าอยากเลือกมือบลัฟบนบอร์ดนี้ที่เหมาะกว่า ให้เลือกมือที่ Equity ต่ำกว่า แต่ยังมี Potential เช่น 86s (มี Gutshot) หรือ 98s (มี Backdoor Draw) เพื่อให้สามารถ Fold ได้ง่ายถ้าโดน Raise
Turn (51,300): A♣ BB Check → Hero… Jam All-in
เพราะทุกคนเหลือ Stack ต่ำกว่าขนาดพอต การ Shove ที่นี่คือ บังคับต้องทำ เพื่อใช้ Fold Equity ให้มากที่สุด นอกจากนี้ Hero ยังมี Advantage ชัดเจนในเรนจ์ เพราะมี Overpair (AA, KK, QQ) และบาง Ax Suited ที่คู่ต่อสู้ไม่มี
การ Jam เทิร์นนี้แม้ดูเสี่ยง แต่เป็น Semi-Bluff ที่มีทั้งแรงกดดันและ Equity ลุ้นให้ติด Straight ได้
สรุป
การบลัฟด้วย Straight Draw เป็นเทคนิคที่โปรใช้บ่อย เพราะ:
- มี Equity ลุ้นชนะจริง
- บล็อกคอมโบแกร่งของคู่ต่อสู้ได้
- ปลอมตัวได้ดีเมื่อชนะ (Implied Odds สูง)
เคล็ดลับคือ เลือก Semi-Bluff มือที่ ไม่มี Showdown Value, มี Blockers ดี, และ สามารถติด Nuts ได้หลายทาง ถ้าฝึกใช้วิธีคิดแบบนี้บ่อยๆ คุณจะรู้ว่าทุก Straight Draw คือโอกาสทองที่จะชนะพอตใหญ่ โดยไม่ต้องรอให้ติด Straight เสมอไป
