วิเคราะห์แผนการเล่นเมื่อ Small Blind C-bet

วิเคราะห์แผนการเล่นเมื่อ Small Blind C-bet

ตำแหน่ง Small Blind เป็นตำแหน่งที่พิเศษในการแข่งขันโป๊กเกอร์ เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่เสียเปรียบที่สุด เพราะต้องเป็นคนแรกที่ต้องตัดสินใจในทุกรอบของการแข่งขันหลังจากรอบ Pre-Flop ดังนั้นการ C-bet ที่เกิดจากผู้เล่นในตำแหน่งนี้ จึงแตกต่างจากการเล่นของผู้เล่นที่ตำแหน่งอื่น (ที่ OOP เช่นเดียวกัน) ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเทคนิคในการเล่นในตำแหน่ง Small Blind ไปพร้อม ๆ กัน

 

พลังขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่สำคัญในการเล่นที่รอบ Post-Flop ที่ควรนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก ก็คือ กลยุทธ์ทั้งหมดเกิดจากการเล่นต่อเนื่องจากรอบ Pre-Flop นั่นหมายถึง Range ของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งที่เลือกเข้ามาเล่น รวมถึง Action ต่าง ๆ ประกอบเข้าด้วยกัน อันดับต่อมาจึงพิจารณา Board Texture จึงจะทราบได้ว่าผู้เล่นที่ตำแหน่งใดเมื่อพิจารณาไพ่บนบอร์ดแล้วมีความต้องการที่จะ Bet (ไพ่เข้าทาง Range ของเขา) และขนาดที่ใช้ Bet มากน้อยเพียงใด

 

Small Blind เป็นตำแหน่งที่ต้องเข้าไปเล่นด้วยการ Raise

แม้ว่าตำแหน่ง Small Blind จะสามารถ Call เข้าไปเล่นด้วยความคุ้มค่าเนื่องจากได้วางชิปลงไปที่ Pot 0.5bb แล้ว ดังนั้นการเพิ่มอีกเพียง 0.5bb จึงเป็นการเล่นที่มี EV เป็น + แต่เนื่องจากตำแหน่งนี้ในการเล่นรอบต่อไปเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นของทุกรอบต่อจากนี้ (จะต้องเล่น Out of position)

 

Small Blind เข้าไปเล่นด้วยการ Cold-Call

การเลือกที่จะ Cold-Call นั้นสร้างความเสี่ยงมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการ Open-Raise:

  • เสี่ยงด้วยจำนวนชิปเท่ากัน เนื่องจากไม่มีใครใส่ชิปลงในกองก่อนจะลงมือ
  • เสี่ยงที่จะโดนผู้เล่นที่อยู่ข้างหลัง Raise หรือ 3-Bet

 

นำสถานการณ์ทั้งสองมา สร้างกลยุทธ์ด้วย SPR จากเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทำให้เราสามารถจำแนกสถานะระหว่าง Open Raiser และผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Cold-Call ดังนี้:

  • ฝ่ายที่เป็นฝ่าย Open Raise มีความได้เปรียบในเรื่อง Nut Advantage
  • ฝ่ายที่เป็น Cold-Call เป็นฝ่ายที่มีความได้เปรียบในเรื่อง Position

แต่ไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความได้เปรียบในเรื่อง Equity Advantage อย่างมีนัยสำคัญ แต่ฝ่ายที่เป็น Caller นั้นเป็นฝ่ายที่ตัดสินใจในการ Close Action และกำความได้เปรียบในเรื่อง Position ที่สามารถเลือกตัดสินใจได้ง่าย

 

การทำความเข้าใจแผนการเล่นด้วยการ C-Bet ของผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB นั้นเราควรเริ่มตั้งแต่แผนการเล่นตั้งแต่ Pre-Flop ซึ่งเราจะนำตัวอย่างจากการเล่นระหว่างผู้เล่นตำแหน่ง SB และ BB

 

แผนการเล่น SB ในกรณีที่มี DEEP STACK (มีชิปหน้าตักตั้งแต่ 60bb ขึ้นไป)

แผนการเล่นนี้ผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB จะ Open Raise ที่ประมาณ 16% โดย Polarize Range ที่ทำการ Open ด้วยไพ่ Connect Suit Broadway, Pocket ต่าง ๆ กระจายอยู่ใน Range ดังภาพ

 

 

ดังนั้นที่ Flop โดยส่วนใหญ่ SB จะทำ C-bet ด้วยขนาดที่ใหญ่ (Pot หรือ Over-Pot) บนบอร์ดที่มีไพ่ในกลุ่มกลาง ๆ ที่ค่อนข้าง Connect กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนไพ่ T, 9, 8 หรือ 7

 

 

และเนื่องจาก Flop ที่ค่อนข้าง Dynamic (หรือที่เรียกว่า Wet Board) ไพ่ที่ Turn เปิดออกมามีโอกาส Complete Straight หรือ Pair Board ทำให้การเล่น OOP ยิ่งยากลำบากมากขึ้น ทางเลือกจึงมีเพียง Check หรือ Over-Bet

Over-Bet ไม่เพียงแต่เป็นการเล่นเพื่อ Deny-Equity ที่ผู้เล่น BB (IP) มีอยู่ แต่ยังเป็นการเล่นที่ +EV อีกด้วยในขณะเดียวกัน การการ Bet ขนาดใหญ่ ทำให้ค่า SPR ต่ำลงทำให้ความเสียเปรียบในเรื่องตำแหน่งน้อยลง

Check ก็มีข้อดีที่ช่วยให้เราไม่ต้องเสียชิปมากเกินความจำเป็น และยังเปิดโอกาสให้สามารถทำการ Check-Raise ที่มีผลดีเหมือนกับการ Over-Bet ทุกประการ

 

ถ้าเหตุผลในการเล่นเพียงเพราะต้องการกดดันคู่ต่อสู้และชนะโดยที่ไม่ต้องเล่นใน Street ถัดไป สิ่งที่คุณจำเป็นต้องมีคือ Nut Advantage และตำแหน่ง SB ที่เป็นฝ่าย Aggressive มีความได้เปรียบในด้านนี้บนหลาย ๆ บอร์ด ยกตัวอย่างเช่น 9♥6♦3♣ ที่เป็นบอร์ดกลาง ๆ Solver ยังให้ผู้เล่นตำแหน่ง SB มีความได้เปรียบในเรื่อง Best Hand ที่มากกว่าผู้เล่นตำแหน่ง BB ถึง 18% ต่อ 3%

 

 

ซึ่งที่ Flop ดังกล่าว Best Hand โดยส่วนใหญ่ได้แก่ไพ่ประเภท Over-pair ที่ BB จะไม่ Flat Call เข้ามาเล่นเฉย ๆ ที่ชิปหน้าตัก Deep ทำให้การเล่น Over-bet ของตำแหน่ง SB มีความหมายถึงความแข็งแกร่งของไพ่ที่ต้องการชนะบน Flop และป้องกันไพ่ที่จะเปิดขึ้นมาที่ Turn หรือ River ที่ไม่เป็นผลดีต่อไพ่ที่ SB ถืออยู่

 

 

ภาพด้านบนแสดงถึงกลยุทธ์ที่ผู้เล่นตำแหน่ง SB เลือกที่จะ Over-bet ที่ 125% pot ในการเล่น Deep Stack

 

สรุปบทความ

แผนการเล่นเมื่อตำแหน่ง SB C-Bet นั้นเป็นหัวข้อที่มีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ ไม่เพียงแต่ตำแหน่งในการเล่นที่ต้องคำนึงถึงแล้วนั้นยังเกี่ยวข้องกับขนาดของชิปที่มีอยู่อีกด้วยว่ามีชิปหน้าตักที่จะบริหารและเลือกแผนการเล่นที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ Action ในรอบ Pre-flop ที่ผู้เล่นตำแหน่ง SB เป็นฝ่าย Raise และ BB Call เพื่อทำความเข้าใจ Flop ที่เปิดออกมาว่าส่งผลอย่างไรต่อ Range ผู้เล่นในแต่ละตำแหน่ง

 

การเลือกขนาด Bet-Size ที่ใหญ่มาก ๆ ในกรณีที่มีไพ่ที่ติด Nuts หรือ Best Hand ไม่ได้หมายความถึงการเล่นที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด คุณอาจเลือกที่จะ Range-Bet ขนาดเล็ก ๆ เพื่อวางกับดัก (Trap) ซึ่งเป็นการ Balance แผนการเล่นของคุณการ Bet ของคุณควรประกอบด้วย Semi-Bluff และไพ่ที่แข็งแกร่งรวมอยู่ด้วย

Share to