Exploitative Strategy คือแผนการเล่นโป๊กเกอร์ในการมุ่งไปที่การทำกำไรให้ได้สูงที่สุดจากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ แผนการเล่นประเภทนี้จะเป็นประเภทการเล่น ที่สามารถทำกำไรได้สูงที่สุดแต่ก็มีจุดอ่อนให้โดนโจมตีกลับได้ เช่นเดียวกัน
Balanced Strategy หรือ อีกความหมายหนึ่งก็คือ Game Optimal Theory (GTO) คือแผนการเล่นที่จะมุ่งไปที่การเล่นที่ถูกต้องในแต่ละสถานการณ์ โดยเน้นไปที่การทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถคาดเดาถึงวิธีการเล่นของเราได้ ดังนั้นกลยุทธ์นี้จะให้คุณกลายเป็นผู้เล่นที่ไม่สามารถเอาชนะได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียคือ จะไม่สามารถทำกำไรได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ กลยุทธ์แบบ Exploitation
Exploitative เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งโจมตีไปยังวิธีการเล่นของคู่ต่อสู้ หรือ จุดอ่อนของคู่ต่อสู้นั่นเอง ดังนั้นเป้าหมายของกลยุทธ์นี้ก็คือ ผู้เล่น!
การนำกลยุทธ์ในแนวทาง Exploitative มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเล่น โป๊กเกอร์ คุณจำเป็นที่จะต้องใช้ความสังเกต ถึงลักษณะว่าผู้เล่นคนนั้นเป็นผู้เล่นประเภทใด, ชอบเล่นแบบไหน และกลยุทธ์ไหนที่ใช้เป็นประจำ โดยคุณจำเป็นต้องคอยสังเกตวิธีการเล่นของผู้เล่นแต่ละคน ทั้งจากการวางเงินเดิมพัน,ลักษณะท่าทาง และการแสดงออก ฯลฯ
Exploitative ในการเล่นจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนตลอดเวลาตามสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น
คุณลองจินตนาการว่า คู่ต่อสู้ของคุณ มักจะหมอบที่ Flop ประมาณ 80% เมื่อถูก C-bet นั่นเป็นจุดอ่อนที่คุณสังเกตเห็น ดังนั้น คุณจึง Exploit โจมตีจุดอ่อนของเขา โดยการปรับ c-betting range โดย
- C-bet ด้วยไพ่แทบจะทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น Bluff หรือ Value เพื่อสร้างความได้เปรียบจากการที่เขามักจะหมอบใน เปอร์เซ็นต์ ที่สูง
- Check ไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณบ้าง เพื่อที่จะให้เขามีโอกาสมีไพ่ที่สามารถ มา Call คุณได้บ้าง เพื่อจะได้เอาชนะเขาใน Street ถัดไป (เนื่องจากเขามักจะหมอบเป็นส่วนใหญ่ การที่เรา Bet ด้วยไพ่ Strong มากๆ ก็จะทำให้เขาหมอบ โดยที่คุณไม่ได้อะไร)
อย่างไรก็ตาม ถ้าคู่ต่อสู้ของคุณเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถ เขาก็จะเริ่มมองเห็นตรงจุดนี้ และเริ่มที่จะตอบโต้คุณกลับโดยการ
- Call มากขึ้นด้วยไพ่ที่ดี เช่น Draw ต่างๆ, Middle pair ฯลฯ
- Check/Raise ให้คุณหมอบด้วยการ Bluff เพราะคุณ C-bet บ่อยด้วย Bluff
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเพียงจุดเดียว (C-bet Spot)
ซึ่งการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆนั้นเป็นหัวใจหลักของการเล่นแบบ Exploitation และจะยิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากคุณเล่นในระดับที่สูงขึ้น
สิ่งสุดท้ายที่คุณควรให้ความสำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูลที่คุณได้รับนั้น มีความถูกต้องอย่างแท้จริง อย่าตัดสินใจจากสิ่งที่คู่ต่อสู้ของคุณต้องการให้คุณคิดว่า เขาเป็นผู้เล่นแบบนั้น เพื่อหลอกคุณ
Balanced
Balanced หรือ GTO คือกลยุทธ์การเล่นที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากในหลายปีมานี้ เป็นแนวการเล่นที่กล่าวได้ว่า หากคุณสามารถเล่นได้อย่างถูกต้องตาม GTO คู่ต่อสู้ของคุณจะไม่สามารถโจมตีเพื่อทำกำไรจากการเล่นของคุณได้เลย
สิ่งที่คุณจะได้จากการศึกษาการเล่นแบบ Balanced
การเล่นของคุณจะเป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้ง่าย ดังนั้นการเล่นแบบนี้จะไม่สามารถถูกโจมตีได้ เมื่อคุณใช้ได้อย่างถูกต้องมันจึงเป็นการเล่นที่เน้นผลในระยะยาว
เป็นการเล่นที่สามารถใช้ได้กับคู่ต่อสู้ทุกประเภทไม่ว่าผู้เล่นคนนั้นจะมีความสามารถในระดับใด
เราจึงควรศึกษาการเล่น Balanced เพื่อนำไปเป็นพื้นฐานในการ โจมตีจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เมื่อพบว่าคู่ต่อสู้ของคุณมีการเล่น ที่ไม่ GTO
ปัญหาในการเล่น GTO
เนื่องจากเกมโป๊กเกอร์เป็นเกมกลยุทธ์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุด ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถจดจำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะคิดว่ากลยุทธ์ของคุณมีความสมดุลเพียงใด ก็มักจะมีจุดอ่อนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เสมอ
ในตอนนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือพยายามศึกษาผล Sim จาก โปรแกรม Computer แล้ว จดจำ รวมถึงหาเหตุผล ว่าทำไม Simulation ใน Solver ถึงแนะนำแบบนั้น (คุณต้องใส่ค่า ตัวแปรต่างๆให้ถูกต้องด้วยนะ) เมื่อ Solver แนะนำ ว่าควรทำอะไร คุณจึงนำมาปรับใช้ในสถานการณ์จริง
สรุปทำความเข้าใจ
เมื่อเราได้ศึกษาจากบทความมาถึงตรงนี้ เราได้เรียนรู้ว่ารูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการใช้ในการเล่น โป๊กเกอร์ คือ การผสมผสานระหว่างการเล่นแบบ Balanced และ Exploitation เข้าด้วยกัน
โดยทั่วไป หากคุณไม่มีข้อมูลการเล่นของคู่ต่อสู้ ก็ควรเริ่มใช้กลยุทธ์ในการเล่น Balance จนเมื่อคุณสามารถพบจุดอ่อน และแนวโน้มว่าคู่ต่อสู้ของคุณเป็นผู้เล่นประเภทใด คุณจึงเริ่มมองหาทาง Exploit เขาเพื่อที่จะทำกำไรสูงสุด!