หากคุณเคยมีประสบการณ์ในการแข่งขันโป๊กเกอร์รูปแบบทัวร์นาเมนต์ที่มีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก หรือการแข่งขันที่มีค่าสมัครถูกหรือฟรีค่าสมัคร คุณอาจเคยเจอผู้เล่นที่มีแผนการเล่นแปลก ๆ และไม่สามารถคาดเดาการเล่นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่แบ่งแยกผู้เล่นที่อ่อนแอหรือผู้เล่นทั่วไปออกจากผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งก็คือการที่พวกเขามักจะ Open-limp (เริ่มต้นด้วยการ Call ด้วยชิปเท่ากับ 1bb ในรอบ Pre-Flop)
การพุ่งเป้าหมายไปยังผู้เล่นที่อ่อนแอและเก็บสะสมชิปให้มากขึ้นในรอบแรก ๆ ของการแข่งขันจากความผิดพลาดในการเล่นของพวกเขาเป็นจุดประสงค์ของบทความนี้
สถานการณ์เมื่อต้องรับมือกับผู้เล่น Limper
เราแบ่งสถานการณ์เมื่อต้องรับมือกับผู้เล่น Limper ออกเป็น 4 สถานการณ์ดังนี้
- ประเภทของผู้เล่น Limper และกลยุทธ์ที่ใช้
เป็นการตัดสินใจว่าผู้เล่นที่เลือกจะ Limp เป็นผู้เล่นประเภทใด
– ผู้เล่นทั่วไปที่มักจะ Limp (ประมาณ 60% ของ Range ทั้งหมด) และหากโดน Raise ก็เลือกที่จะหมอบได้ง่าย ๆ หรือหากไม่หมอบ พวกเขาก็เข้าไปเล่น Post-Flop โดยที่มักจะไม่หมอบง่าย ๆ
– ผู้เล่นที่ค่อนข้าง Tight ที่ชอบวางแผน Limp-Reraise หรือ Limp-Jam (Limp เข้ามาเล่นด้วยไพ่ Premium 10% ของ Range ทั้งหมด)
– ผู้เล่นที่อยู่ระหว่างกลางของทั้งสองประเภท
การรับมือกับผู้เล่นที่เลือกจะ Limp เข้ามานั้นจึงต้องยืดหยุ่นและเลือก Range ให้เหมาะสมในการเล่นกับผู้เล่นในแต่ละประเภท
- ตำแหน่งในการเล่นของเรากับผู้เล่นที่ Limp
เราควรพิจารณาตำแหน่งในการเล่นระหว่างคู่ต่อสู้กับเรา ยกตัวอย่างเช่น หากคู่ต่อสู้ Limp มาจากตำแหน่ง UTG เราสามารถ Raise ได้มากขึ้นหากอยู่ที่ตำแหน่งที่ได้เปรียบมาก ๆ อย่างเช่น CO หรือ BTN เนื่องจากเหลือผู้เล่นที่จะสามารถกดดันต่อจากเราอีกเพียงสองตำแหน่งคือ SB และ BB ทำให้มีโอกาสที่จะสามารถเข้าไปเล่นกันตัวต่อตัวได้
- จำนวนผู้เล่นที่สามารถเล่นต่อจากเราและประเภทของพวกเขา
เราต้องพิจารณาจำนวนผู้เล่นที่สามารถเล่นต่อจากเราและประเภทของพวกเขา รวมถึงกลยุทธ์ที่พวกเขาอาจใช้เพื่อที่เราจะได้พิจารณาสถานการณ์อย่างเหมาะสม
- ไพ่ที่เราถือ
ต้องตั้งคำถามว่าไพ่ที่เราถือในขณะนั้นคือไพ่อะไร และมีไพ่อะไรที่สามารถเล่นได้ดีกับผู้เล่นที่ Limp บางครั้งเราสามารถโจมตีผู้เล่นที่ Limp เข้ามาด้วยไพ่อะไรก็ได้และชนะจากการกดดันให้คู่ต่อสู้หมอบ แต่บางครั้งเราก็ต้องการให้คู่ต่อสู้ Call เข้ามาเล่นเพื่อทำกำไรให้มากที่สุดจากการ Call ไปจนถึง Showdown ด้วยไพ่ที่ไม่ได้ดีที่สุดของเขาด้วยเช่นกัน
การเลือกขนาดการ Raise
หลังจากได้กลยุทธ์สำหรับสถานการณ์ต่างๆ ครบถ้วนแล้ว เราควรพิจารณาขนาดของการ Raise ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในกลยุทธ์ของเรา แนวคิดทั่วไปในการหาขนาดที่ต้องการก็คือพยายามหาจำนวนสูงสุดที่พวกเขาจะ Call แต่หากคู่ต่อสู้ Fold ไปก่อนก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การหาจำนวนสูงสุดที่คู่ต่อสู้จะ Call นั้นสามารถทำกำไรให้กับคุณได้มากที่สุด เนื่องจากเรากำลังเล่นภายใต้สมมติฐานว่าเรามีไพ่ที่แข็งแกร่งกว่าและได้เล่นในตำแหน่งดีกว่า ดังนั้นเราจึงต้องการทำกำไรให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่หากคุณต้องเล่นโดยเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นหรือ OOP ในรอบ Post-Flop คุณควรเลือกเล่นไพ่ที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้นและเพิ่มขนาดของการ Raise ขึ้นอีกเล็กน้อย ราว ๆ 2-3BB