5 เคล็ดลับพัฒนาการเล่น Bounty Tournament

การแข่งขันโป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์เป็นการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีลักษณะคล้ายการแข่งขันกีฬา และมักมีเงินรางวัลสูงสำหรับผู้ชนะ รวมถึงรางวัลพิเศษให้ผู้เข้าแข่งขัน หนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากขึ้นคือการแข่งขัน Bounty Tournament (มีรางวัลพิเศษสำหรับการกำจัดผู้เล่นอื่น ซึ่งเรียกว่า “ค่าหัว”)

 

การแข่งขัน Bounty Tournament น่าสนใจเพราะนอกจากเงินรางวัลรวมแล้ว ยังมีรางวัลพิเศษจากการล่าค่าหัวผู้เล่นคนอื่น ซึ่งรางวัลนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อผู้เล่นสามารถกำจัดคู่แข่งได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันแบบ Bounty ต้องใช้ทักษะและกลยุทธ์เฉพาะตัว เราจึงขอเสนอ เคล็ดลับ 5 ประการ ที่จะช่วยให้คุณพัฒนาการเล่นและชนะเงินรางวัลพิเศษจากรายการ Bounty ได้มากที่สุด

 

1: ปรับกลยุทธ์ All-In และแนวคิดเรื่อง ICM สำหรับการแข่งขันของคุณ

ในการแข่งขันโป๊กเกอร์ การ All-In พิจารณาจากความเสี่ยง/ผลตอบแทนหรือ Pot Odds โดยนำปัจจัยต่าง ๆ มาพิจารณา แต่สำหรับการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ ความคุ้มค่าของการ All-In ต้องพิจารณาจากตัวแปรที่ซับซ้อน เช่น จำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่ และเงินรางวัลลำดับต่าง ๆ ซึ่งเราเรียกว่า Independent Chip Model (ICM)

ใน Bounty Tournament จำเป็นต้องผสมผสานทั้ง ICM และ Pot Odds เข้าด้วยกัน โดยในช่วงเริ่มต้น คุณควรมุ่งเน้นการล่าค่าหัว แต่เมื่อเข้าใกล้ช่วง ITM ควรใช้ ICM ในการคำนวณความคุ้มค่าของการ All-In เพื่อให้การตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

2: กลยุทธ์เมื่อเหลือชิปน้อยควรเล่นไพ่ที่กว้างขึ้นแต่แข็งแกร่ง

เมื่อคุณเป็น Short Stack ใน Bounty Tournament คุณจะเป็นเป้าหมายของผู้เล่นที่ต้องการกำจัดเพื่อรับค่าหัว ดังนั้นควรมุ่งเน้นการเล่นไพ่ที่แข็งแกร่งและขยายขอบเขตไพ่ให้กว้างขึ้น โดยเพิ่มไพ่ AXs กลาง ๆ ใน Range ของคุณ เพราะคู่ต่อสู้มักจะ Call ด้วยไพ่ที่ไม่แข็งแกร่งนัก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณชนะได้มากขึ้น

 

3: กลยุทธ์ในการ Bluff ควรบีบ/ลด Range ไพ่ให้แคบลง

เนื่องจากคู่ต่อสู้มักจะ Call บ่อยขึ้น คุณควรเลือกไพ่ที่จะแทง Bluff ให้แคบลง โดยลดไพ่ในกลุ่มที่ปกติสามารถ Bluff ลง เช่น Suited Connectors และเพิ่มไพ่ที่แข็งแกร่ง เช่น Ax หรือ Pocket Pairs เพื่อเพิ่มโอกาสในการ All-In และสร้างชิปให้กับคุณ

 

4: เมื่อมีชิปมาก (Deep Stack) เน้นแผนการเล่นไปที่การล่าค่าหัว

หากคุณเป็นผู้เล่นที่มีชิปมากที่สุดบนโต๊ะ ควรใช้แผนการเล่นที่ดุดันขึ้นด้วยการ All-In เพื่อกดดันคู่ต่อสู้ แตกต่างจากการเล่นแบบ Short Stack ซึ่งเน้นการสะสมชิป การเล่นแบบ Deep Stack ใน Bounty Tournament ควรเน้นการล่าค่าหัวเพื่อเพิ่มกำไรให้มากขึ้น โดยการกำจัดผู้เล่นอื่นให้ได้มากที่สุด

 

5: วางแผนการเล่นในช่วง Bubble ให้เหมาะสม

ในทัวร์นาเมนต์ปกติ แผนการเล่นจะเน้นการเข้าสู่ช่วง ITM ซึ่ง ICM มีบทบาทสำคัญ แต่ใน Bounty Tournament แผนการเล่นในช่วง Bubble ลดความกดดันลง เนื่องจากคุณอาจมีผลกำไรจากการล่าค่าหัวสะสมมาก่อนแล้ว ทำให้สามารถเล่นอย่างดุดันได้มากขึ้น และหากสามารถ Call เพื่อเพิ่มค่าหัวได้ก็คุ้มค่า แม้จะอยู่ในช่วง Bubble ก็ตาม

 

Share to . . .

บทความน่าสนใจ