เล่นอย่างโปรเมื่อเทิร์นออกไพ่ซ้ำตรงกลาง

เล่นอย่างโปรเมื่อเทิร์นออกไพ่ซ้ำตรงกลาง

หนึ่งในสถานการณ์ที่เปลี่ยน “ไดนามิกของเกม” มากที่สุดเวลาเล่น Heads-Up Pot คือ เมื่อไพ่เทิร์นออกซ้ำตัวกลางของฟลอป
เช่น ฟลอป K-T-4 → เทิร์นออก T หรือ ฟลอป 9-6-4 → เทิร์นออก 6

เพราะการออกไพ่แบบนี้ทำให้ Range ของทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนทันทีและทำให้การ “Double Barrel” (c-bet ฟลอปแล้วเดิมพันต่อบนเทิร์น) ต้องละเอียดกว่าปกติมาก

บทความนี้จะทำให้คุณเล่นสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างมืออาชีพกว่าที่เคย

 

PART 1 — Double Barrel เมื่อเรามีตำแหน่ง (In Position)

โดยหลักใหญ่มี 2 สถานการณ์ที่ควร Double Barrel เมื่อเทิร์น pair ตัวกลาง:

  1. หลังจากฟลอปเป็น High-Frequency C-Bet Board
  2. หลังจากฟลอปเป็น Medium-Frequency C-Bet Board

แต่รูปแบบการยิงเทิร์นของทั้งสองแบบ “ต่างกันมาก” — ไปดูกันทีละเคส

 

เคส 1: ฟลอปแบบ High Frequency (เช่น K♠ T♣ 4♦)

ฟลอปนี้เป็นของ Button ชัดเจน:

  • มี nut advantage
  • มี equity advantage
  • ไม่มีดรอเยอะ
  • Range ของ BB อ่อนกว่า

Solver จึงให้ Button c-bet เกือบทั้ง Range แต่เมื่อเทิร์นออก T ซ้ำ เป็น K-T-4-T…

 

กลายเป็น BB ได้ Range Advantage ทันที

หลังคอลฟลอป → Range ของ BB แคบลงเหลือแต่คู่ / ไพ่ที่มีโชว์ดาวน์
ส่วน BTN มี bluff จำนวนมากจากฟลอป → Range อ่อนลง

ผลลัพธ์ใน Solver:

  • BTN Double Barrel แค่ 12% ของ Range
  • และส่วนใหญ่ใช้ Overbet!

Value Range ที่ Solver ชอบยิงบนเทิร์น

  • KK
  • AT
  • 44

แต่ Solver เช็ค KT และ TT เพราะ block การคอลจากคู่ K และคู่ T ซึ่งเป็นกลุ่มไพ่ที่จะยอมจ่ายชิปให้เรา

 

Bluff Range ที่ Solver เลือกมีความ Polarize สูงมาก

  • Nut flush draws
  • ครึ่งหนึ่งของ weak flush draws
  • Combo draws
  • Open-enders
  • Gutshots + spade
  • A♠+X (รอทำ nut bluff บน river)

หมายความว่า Solver ให้ยิงเฉพาะมือที่ แรงมาก หรือ อ่อนมากแต่มี blocker ดี เท่านั้น

 

เคส 2: ฟลอปแบบ Medium Frequency (เช่น 9♥ 6♥ 4♠)

ฟลอปนี้ BTN ไม่มี nut advantage เท่าเดิม BB มีดรอเยอะ และ Board Connected มาก → BTN ต้องใช้ bet ใหญ่ + range ที่ polarized

แต่เมื่อเทิร์นออก 6 ซ้ำ (9-6-4-6):

 

Solver แนะนำให้ Double Barrel “เล็ก” และ “เบาบ่อยมาก”

สาเหตุคือ:

  • Range ของ BB เต็มไปด้วยดรอจำนวนมาก
  • BTN มีมือที่ต้อง deny equity เช่น A9 / TT / JJ
  • จึงควรใช้ size เล็กกดดัน + deny equity ได้ดี

Value Range ที่ยิงแน่ ๆ

  • Trips+ ทุกชุด
  • Thin value เช่น A9, TT, JJ (ต้อง deny equity)

Bluff Range ที่น่าทึ่งมาก: ไม่ใช่ดรอ!

Solver ไม่ ยิง flush draw/open-ender เลยเพราะ BB สามารถ check-raise บ่อยมาก → เราต้องหมอบ equity ที่ดี → ขาดทุนหนัก

Solver เลือก bluff จากมือพวกนี้:

  • KJ / KT (ไม่มี heart, diamond)
  • QJ / QT / JT (ไม่มี heart, diamond)
  • K3 / Q3 (สีดำ/เขียว)

มือเหล่านี้มี blocker ที่ดีมาก
ปิดเส้นทาง trips และ Top Pair ของ BB ได้ดี และไม่ block ดรอ → ทำให้ BB หมอบดรอได้มากขึ้น

นี่คือ “ทฤษฎีสมัยใหม่” ที่สวนกับสัญชาตญาณของผู้เล่นส่วนใหญ่

 

5 Key Takeaways (แบบจำง่ายที่สุด)

1) เมื่อเทิร์น pair ตัวกลาง → คุณควร Double Barrel แคบลงมาก ๆ

ยิงเฉพาะ value หนัก + bluff ที่มี blocker ที่ดี

2) เน้น Value จากมือที่แรงมาก

เช่น trips หรือ overpairs ที่เสี่ยงโดนดรอ

3) Bluff ต้องเป็นแบบโคตรแรง หรือโคตรอ่อนพร้อม blocker ดี

ไม่ใช่ดรอทั่วไป

4) ถ้า Range ไม่มีมือเปราะบาง → ควรใช้ bet ใหญ่ (overbet)

เช่น K-T-4-T

5) ถ้ามีมือเปราะบางต้อง deny equity → ใช้ bet เล็ก

เช่น 9-6-4-6

 

บทสรุป

เวลาไพ่เทิร์นออกคู่กลางของฟลอป เกมจะเปลี่ยนไปทันทีผู้ที่เข้าใจโครงสร้าง Range และรู้ว่าควรยิงด้วยมือไหน จะได้เปรียบอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อคู่ต่อสู้ “ไม่ balanced” ซึ่งถูกต้องแล้ว เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่เคยศึกษาเคสเหล่านี้อย่างจริงจัง

Share to