การแข่งขันทัวร์นาเมนต์แบบ Bounty ที่มีรางวัลพิเศษเมื่อคุณสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ออกจากการแข่งขัน หรือที่รู้จักกันว่า “ค่าหัว” นั้น มีกลยุทธ์ที่แตกต่างจากทัวร์นาเมนต์แบบปกติอย่างสิ้นเชิง ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา Ian Simpson ผู้เขียน ได้ลงแข่งขันรายการ Live หลายรายการ แต่มีเพียงไม่กี่รายการที่เป็นรูปแบบ Bounty ทำให้เจ้าตัวเน้นกลยุทธ์หลักไปที่การแข่งขันแบบปกติมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงสิ้นปีที่ต้องใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในเทศกาลคริสต์มาส ผู้เขียนหันกลับมาสู่การแข่งขันที่มีทัวร์นาเมนต์แบบ Bounty มากมายให้เลือก และกลายเป็นโอกาสในการกลับมาทำกำไรจากค่าหัวอีกครั้ง
บทความนี้จึงได้รวบรวม 3 เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสชนะและสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการเล่นทัวร์นาเมนต์แบบ Bounty แน่นอนว่าโป๊กเกอร์ไม่มีสูตรตายตัว คุณจึงควรปรับใช้คำแนะนำเหล่านี้ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองและสถานการณ์ในเกม
สังเกตขนาดชิปหน้าตักของผู้เล่นที่เล่นต่อจากคุณ
เมื่อมีผู้เล่นก่อนหน้าทำการ Open Raise ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ อย่าลืมสังเกตขนาดของชิปผู้เล่นที่เหลืออยู่และจะเล่นต่อจากคุณ หากคุณมีชิปมากกว่าพวกเขา แผนของคุณควรเน้นไปที่การ Call มากกว่า 3-Bet เพราะถ้าคุณ 3-Bet แล้วพวกเขาหมอบ โอกาสในการล่าค่าหัวก็จะหายไป หากคุณเลือกแค่ Call จะมีโอกาสเล่นกับพวกเขา และนั่นหมายถึงโอกาสคว้าค่าหัว
แต่หากผู้เล่นที่เหลืออยู่ โดยเฉพาะ Big Blind มีชิปน้อยกว่า 20BB คุณควร Call ด้วยไพ่ที่แข็ง เช่น AA หรือ AK เพื่อให้พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมในเกม เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิด All-in ภายใน 1-2 รอบ Post-Flop
ในทางกลับกัน หาก Big Blind มีชิปมากกว่าคุณ การปล่อยให้เห็นไพ่ฟรีหรือเข้ามาง่ายๆ อาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะใน PKO ที่ผู้เล่นจะกล้าเล่นด้วยไพ่ที่กว้างมากกว่าเดิม หวังล่าค่าหัว การ 3-Bet ด้วยขนาดใหญ่จะช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขา Over-call ด้วยไพ่ธรรมดาอย่าง 85 offsuit แล้วมาติดสองคู่กำจัดคุณได้
ICM กับ ปัจจัยค่าหัว (Bounty Factor)
ICM (Independent Chip Model) ใช้ประเมินมูลค่าของชิปเปรียบเทียบกับโอกาสได้รับเงินรางวัล โดยปกติยิ่งใกล้เงินรางวัลหรือโต๊ะสุดท้าย ICM จะยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้น
แต่ใน Bounty Tournament ปัจจัย “ค่าหัว” ก็มีมูลค่าสำคัญเช่นกัน
- ในช่วงต้นเกม ICM มีผลน้อย ค่าหัวจึงสำคัญกว่า
- ช่วงใกล้ Bubble หรือ Final Table ICM จะกดดันสูงขึ้น ค่าหัวจึงมีน้ำหนักน้อยลง
ในรูปแบบ PKO หรือ Mystery Bounty ค่าหัวไม่ได้คงที่ ผู้เล่นที่กำจัดคนอื่นได้มาก จะมีค่าหัวสะสมสูงขึ้น บางครั้งมากพอให้คุณเสี่ยงกำจัดพวกเขาแทนที่จะรอดเข้ารางวัลก็ยังคุ้ม โดยเฉพาะใน Mystery Bounty ที่ค่าหัวสูงสุดยังถูกซ่อนไว้ ยิ่งทำให้ปัจจัยนี้มีบทบาทแม้ในรอบลึกๆ
ค่าตอบแทนคุ้มค่าที่จะเสี่ยงมากกว่าการได้เข้ารอบเสียอีก โดยเฉพาะ ใน Mystery Bounty ที่ค่าหัวที่สูงที่สุดยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้กลยุทธ์ในการเล่นในช่วงท้ายๆ ยังอาศัยปัจจัยจากค่าหัว ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
ความสนุกที่สุดก็คือการที่คุณเข้าสู่ช่วง Bubble ในฐานะผู้เล่นที่มีชิปหน้าตักมากกว่าผู้เล่นอื่น เนื่องจากคู่ต่อสู้ของคุณต้องกังวลว่าจะไม่ได้เงินรางวัลใดๆ ทั้งๆที่เข้าใกล้มากแล้ว ในขณะที่คุณสามารถกดดันพวกเขาเหล่านั้นด้วยการเล่นไพ่ที่มี Range กว้างมากกว่าปกติเป็นพิเศษ เนื่องจาก Implied Odd ที่จะได้รับจากค่าหัวของเขาเหล่านั้นด้วย หากคุณสามารถชนะได้
เลือกแข่งขันที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด
หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกทัวร์นาเมนต์แบบไหนดี คำตอบคือ PKO เพราะมีทั้งค่าหัวและเงินรางวัลรวม หากคุณกำจัดคู่แข่งได้เร็วพอ คุณอาจได้คืนทุนหรือได้กำไรก่อนถึงรอบเงินรางวัลด้วยซ้ำ
ใน Vanilla Tournament หรือ Mystery Bounty คุณต้องเล่นหลายชั่วโมงกว่าจะเห็นเงิน แต่ใน PKO เพียงกำจัดผู้เล่นได้คนเดียวก็อาจได้ค่าหัวคืนเกินค่าสมัครแล้ว
สรุป
การเล่นโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ไม่ว่าจะรูปแบบใด การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับโครงสร้างรางวัลเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเพิ่งเริ่มเรียนรู้ ควรลดจำนวนโต๊ะที่เล่นลงชั่วคราว เพื่อฝึกและทำความเข้าใจกลยุทธ์ให้แม่นยำยิ่งขึ้น แม้อาจดูเหมือนเสียโอกาสในการ Multitable แต่คุณจะได้รับประโยชน์ระยะยาวจากความเข้าใจเกมอย่างแท้จริง
ขอให้คุณโชคดีและประสบความสำเร็จในการแข่งขัน!