วิธีเล่นโป๊กเกอร์ในสถานการณ์การเล่นไพ่ Set เมื่อบอร์ดมีโอกาสติดฟลัช พร้อมกลยุทธ์การ C-Bet ที่ช่วยให้คุณทำกำไร
จากสถานการณ์นี้ ในการแข่งขันโป๊กเกอร์ Tournament ในระดับ Low-Stake สมมุติว่าคุณมีตำแหน่งในการเล่นอยู่ที่ ตำแหน่ง Early Position ได้รับแจกไพ่ 88 (ไพ่คู่แปด) มีผู้เล่นที่ตำแหน่ง Middle Position Call และ Big-Blind Call ทั้งคู่เป็นผู้เล่นทั่วไปที่คุณสามารถสังเกตได้ว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่มีแผนการเล่นแบบตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน
ไพ่ที่ Flop เปิดออกมาเป็น 8♦J♠Q♠
ขณะนี้คุณติด Set 8 (เซ็ต) ที่ Flop แล้ว แต่ยังมีเรื่องที่คุณกังวล นั่นก็คือ Q และ J ที่มีสีเดียวกัน คือ โพดำ (Spade) นอกจากนี้ไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ดยังมีความเชื่อมโยงกันสูงมาก ที่เราเรียกว่า Wet-Board ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะติด Set บนบอร์ดนี้ แต่ก็ยังมีโอกาสที่คู่ต่อสูู้จะมี Flush-Draw (ฟลัชดรอว์ มีไพ่โพดำสองใบ และติดเมื่อไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเป็นโพดำอีก 1 ใบ) ,Straight (คู่ต่อสู้ถือ T9) หรือกำลังลุ้น ติด Straight จากไพ่ Tx,9x,AK แต่ เขาก็อาจจะยังมี Qx หรือ Jx ได้อีกด้วย
คุณตัดสินใจที่จะ C-Bet (Continuation Bet) ซึ่งคำแนะนำก็คือคุณควรใช้ขนาด Bet-Size ที่ใหญ่ขึ้นมากกว่าปกติ เมื่อคุณมั่นใจว่าคู่ต่อสู้ที่เล่นกับคุณเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถปานกลาง เนื่องจากพวกเขามักจะไม่หมอบบนบอร์ดนี้แม้จะมีไพ่เพียงคู่เดียว (Qx , Jx) หากเจอการ C-Bet ที่ Flop นี้ เนื่องจากเป็นการ Bet ที่ Flop ที่ขนาดเดิมพันอาจจะยังไม่ใหญ่มาก และเขาจะลองพยายาม Call เพื่อลุ้นที่จะติดอะไรก่อนที่ยอมแพ้ไปง่ายๆ หรือคิดว่าคุณอาจพยายามลักไก่อยู่ แม้ว่าแผนการเล่นนี้ อาจไม่ใช่การเล่นที่สมดุลที่สุด แต่ไม่สำคัญเพราะเป็นแผนการเล่นที่สามารถทำเงินให้กับคุณได้มากที่สุด
เมื่อคุณตัดสินใจ C-Bet ออกไป และมีผู้เล่นหนึ่งคน Call การเล่นของคุณเข้าไปเล่นต่อที่ Turn
จากนั้นไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเป็นไพ่ต่ำที่เป็นสีเดียวกันกับไพ่บนบอร์ดนั่นคือ โพดำ (Spade) ทำให้ขณะนี้หากคู่ต่อสู้ถือโพดำที่ลุ้นติด Flush หรือ สี ที่ Flop ตอนนี้เขาก็ติด Flush แล้ว
กลยุทธ์ที่แนะนำก็คือคุณควรยังคง C-Bet ต่อเนื่องในการเล่นที่ Turn ในความถี่ที่สูง ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ของคุณ เมื่อคู่ต่อสู้ของคุณที่มีระดับการเล่นอยู่ที่ระดับกลาง ถึง ระดับต่ำ นั่นทำให้ผู้เล่นเหล่านั้นยังไม่สามารถหมอบไพ่ Top-Pair หรือ Second-Pair (ไพ่คู่กลาง) ได้ แม้ว่าจะมีไพ่ที่สามารถ Complete Flush ได้ ด้วยขนาด Bet-Size ที่เหมาะสมในกรณีนี้คือ ½ ของ Pot ลงมา
สถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ Raise ?
ในสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้ Raise สามารถเกิดได้จากไพ่ที่ติด Flush แล้วเท่านั้น (เนื่องจากคู่ต่อสู้ที่ไม่ใช่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์มักจะมี Bluff น้อยกว่าปกติ) ในการเล่นที่ Turn แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหมอบ (Fold) ทันทีเมื่อถูกคู่ต่อสู้ Raise โดยเฉพาะถ้าเป็นการ Raise ด้วยการใช้ขนาด Bet-Size ในขนาดเล็ก จากนั้นในการเล่นที่ River หากคู่ต่อสู้มี Flush เขาจะ Raise อีกครั้ง ซึ่งนั้นก็สมเหตุสมผล
แต่ผู้เล่นทั่วๆไปมักจะเล่นอย่างตรงไปตรงมาในสถานการณ์นี้ ที่โดยส่วนใหญ่มักจะ Check-Call ด้วยไพ่ Top-Pair ของพวกเขา
ในสถานการณ์นี้ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกที่จะ Check ด้วยการเล่นอย่างระมัดระวัง และ ทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรไป คุณจึงไม่ควรทำเช่นนั้น คุณควรเลือก Bet ออกไปหากมีโอกาส เพื่อทำกำไรจากคู่ต่อสู้ ที่จะเลือก Call หากเขามีไพ่ที่เป็นเป้าหมายของคุณ นั่นคือ Qx ที่เป็น Top-Pair และ Jx ที่เป็น Second-Pair นั่นเอง
การรู้วิธีเล่นโป๊กเกอร์ ในสถานการณ์เล่นไพ Set เมื่อบอร์ดมีโอกาสติด Flush ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ แต่ยังช่วยให้คุณสามารถทำกำไรจากการเล่นที่มีการคิดคำนวณและกลยุทธ์ที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ