หลายครั้งเวลาเล่นทัวร์นาเมนต์ คุณอาจเจอสถานการณ์ที่ไม่รู้จะ C-Bet ดี หรือควรจะ Check-Back เฉยๆ การ Check-Back มักทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังถอยหนี ดูขี้ขลาดกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แต่ความจริงแล้ว การ Check-Back คือหนึ่งใน เครื่องมือสำคัญ ที่ผู้เล่นเก่งๆ ใช้เพื่อปกป้องช่วงไพ่ (Range) ของตัวเอง และลดความเสี่ยงจากบอร์ดที่ไม่เป็นใจ
มาดูกันว่าเราควรสร้างกลยุทธ์ Check-Back อย่างไรให้แข็งแรง และเลือกใช้ในจังหวะที่เหมาะสม
เข้าใจก่อน: ทำไมต้อง C-Bet?
การ C-Bet ไม่ได้มีไว้เพื่อ “รักษาภาพความเป็นคนเปิด” อย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลักคือ
- Range Advantage – ใครมีช่วงไพ่โดยรวมที่แข็งแกร่งกว่า
- เช่น บนบอร์ด K♠7♣3♦ ผู้เล่นที่เปิดจาก Button มักจะมี Kx แข็งๆ หรือ Overpair มากกว่า Big Blind
- เช่น บนบอร์ด K♠7♣3♦ ผู้เล่นที่เปิดจาก Button มักจะมี Kx แข็งๆ หรือ Overpair มากกว่า Big Blind
- Nut Advantage – ใครมีไพ่ที่ “ดีที่สุด” บ่อยกว่า
- เช่น บนบอร์ด 8♦7♦6♦ Big Blind จะมี Flush และ Straight มากกว่า Button
- เช่น บนบอร์ด 8♦7♦6♦ Big Blind จะมี Flush และ Straight มากกว่า Button
ถ้าคุณเจอบอร์ดที่คู่ต่อสู้มีทั้ง Range และ Nut Advantage คุณควรเคารพมันด้วยการ Check-Back บ่อยขึ้น
Check-Back คือการ “เคารพ Range” ของคู่ต่อสู้
การ Check-Back ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการยอมรับว่าบอร์ดนี้คู่ต่อสู้มีโอกาสเชื่อมกับไพ่แรงๆ มากกว่า เช่น
- บอร์ด 6-5-4 rainbow
- บอร์ด 7-7-6 มี Flush Draw
- บอร์ด 8-6-5 ดอกเดียวกัน
บอร์ดเหล่านี้มักจะชนกับ Range ของ Big Blind เยอะ จึงไม่ใช่จังหวะที่ดีในการยิง C-Bet ทุกครั้ง
ตัวอย่าง: Flop 6♥ 5♦ 4♣
สมมุติคุณเปิดจาก Lowjack ด้วย 40BB แล้ว Big Blind Call มา
Flop ออกมา 6♥ 5♦ 4♣ คู่ต่อสู้ Check
Solver แนะนำว่า Lowjack ควร Check 53% และ Bet 47% ด้วยขนาดใหญ่
ทำไมต้อง Check เยอะ?
เพราะ Big Blind มี Range ที่เชื่อมกับบอร์ดนี้บ่อยมาก (6x, สเตรท, Two Pair, Set) ถ้าคุณ Bet บ่อยเกินไป คุณจะถูก Check-Raise หรือ Call ด้วย Range ที่แข็งแกร่ง และตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
มือที่เหมาะจะ Bet
- Top Range: สเตรท, Set, Two Pair
- Vulnerable Value: 88–JJ
- Strong Draws: ไพ่ดึงแรงๆ ที่ยังไม่มี Showdown Value
- บาง Bluff เช่น A9o, KTo, QTo ที่ไม่ค่อยพัฒนาได้
มือที่ควร Check-Back
- Ax ที่ไม่อยากโดน Check-Raise
- Broadways ที่มี Backdoor Flush Draw
- Overpair บางส่วน (AA, KK) เพื่อป้องกัน Range
ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่ “ไม่เคย Donk Bet”
Solver คาดว่า BB จะ นำ (Lead) บนบอร์ดนี้ถึง 65% แต่ถ้าเล่นจริงคุณเจอคนที่ไม่เคย Lead เลย นั่นหมายความว่า เขายังเก็บ Range ที่แข็งไว้หมด
กรณีนี้ คุณควรปรับโดย Check-Back บ่อยขึ้นกว่าที่ Solver แนะนำ เพราะถ้าคุณ Bet เยอะเกินไปจะถูกลงโทษง่าย
ทริคในการ Exploit
- ถ้าเจอคนชอบ Lead บ่อย → มักจะ Over-Bluff ใช้ Slowplay หรือ Re-Raise กลับได้
- ถ้าเจอคน Lead แบบ Passive → ให้ระวัง เพราะเขามักจะถือของจริง
- ถ้าเจอคนไม่เคย Lead เลย → คุณต้องลด C-Bet ลง และใช้ Check-Back สร้างความสมดุล
การสร้างกลยุทธ์ Check-Back ที่ดีคือการรู้ว่า เมื่อไรควรเคารพ Range ของคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะบนบอร์ดที่เชื่อมกับ Big Blind ได้มาก
- เมื่อคู่ต่อสู้มีทั้ง Range และ Nut Advantage → Check-Back เยอะขึ้น
- เมื่อเจอผู้เล่นที่ไม่ Lead เลย → Check-Back บ่อยกว่าปกติ
- และอย่าลืมผสมมือแข็งบางส่วนใน Check-Back Range เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกดดันง่าย
การ Check-Back จึงไม่ใช่ความขี้ขลาด แต่มันคือ การวางหมากอย่างชาญฉลาด