การเล่นโป๊กเกอร์ในการเล่นแบบ Multiway หรือการเล่นที่มีผู้เล่นมากกว่า 2 คน เข้าไปเล่นใน Pot นั้น ในปัจจุบันยังไม่มีโปรแกรม Solver ที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์แผนการเล่นที่ถูกต้องสมบูรณ์ตาม Game Theory Optimal ได้ ( ศึกษาเรื่อง GTO ได้ในบทความ…“เรียนรู้ Modern Poker : GTO คืออะไร?”..) แต่สำหรับบทความนี้เราได้นำ 10 เคล็ดลับ ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่น แบบ Multiway Pot ได้อย่างแน่นอน
เรามาเริ่มทำความเข้าใจทั้ง 10 หัวข้อดังนี้
10 เคล็ดลับที่จะช่วยในการเล่น Multiway Pot |
- ปัญหาของการนำทฤษฎีเกมมาใช้ในการเล่น แบบ Multiway
- ผู้เล่นทุกคนมีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงร่วมกัน
- เลือกเล่นไพ่ที่ดี Tight ให้มากขึ้น
- หยุด ! ใช้ Range Bet
- มุ่งเน้นไปที่ไพ่ที่มีโอกาสติด Nuts หรือไพ่ที่ดีที่สุด
- ผลตอบแทนสูงด้วย Implied Odd และ Reverse Implied Odd
- ใช้ขนาด Bet Size ที่เล็ก
- ตำแหน่งที่มีความได้เปรียบจะยิ่งทวีความได้เปรียบมากขึ้น
- ไพ่ที่เป็น Blocker จะเพิ่มบทบาทมากขึ้น
- Range ไพ่ที่ Capp จะถูก Exploit ลดลง
1. ปัญหาของการนำทฤษฎีเกมมาใช้ในการเล่น แบบ Multiway
ก่อนที่เราจะทำความเข้าใจกับเนื้อหาของบทความหลักของเรา เราควรเริ่มที่จะพิจารณาถึง GTO หรือทฤษฎีเกมที่มีพื้นฐานจากการมุ่งไปที่การเล่นที่ไม่อาจถูกเอาเปรียบหรือโจมตีได้เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เป็นกำไรในระยะยาว นั่นก็คือการเล่นที่มี EV (Expect Value) ดีที่สุด และ ขยายผลตอบแทนให้เพิ่มขึ้นจากการเล่นที่ผิดพลาดของคู่ต่อสู้ แต่ทฤษฎีนี้ไม่สามารถนำมาใช้ได้เนื่องจาก ไม่มีการเล่นที่สมบูรณ์แบบไม่สามารถถูกโจมตีได้ในการเล่นแบบ Multiway
ความผิดพลาดของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งในการเล่นแบบ Multiwayไม่ได้ ส่งผลต่อผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่จะเกิดผลกระทบกับผู้เล่นทุกคนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่ง ไม่ว่าคุณจะใช้แผนการเล่นใด ไม่ว่าจะเป็น GTO หรือ Exploitative ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงผลที่เกิดขึ้นได้
2.ผู้เล่นทุกคนมีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงร่วมกัน
ในการเล่นโป๊กเกอร์ เราใช้ ค่า Minimum Defense Frequency (MDF) เป็นเครื่องมือใช้ในการคำนวณถึงความถี่ที่น้อยที่สุดที่ผู้เล่นคนนั้นควรจะ Call เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ Bluff โจมตีจุดอ่อนจากการที่ Bet กดดัน ในทางกลับกันของ MDF
เรามี Alpha (α) เป็นค่าที่จะบอกว่าผู้เล่นควรที่จะหมอบเป็นความถี่เท่าใด เพื่อจะให้เป็นการเล่นที่เป็นกำไร
เมื่อเรานำมาใช้ในการเล่นของเราจะพบว่าเมื่อผู้เล่นใช้การ Bet 100% ของ Pot ผู้เล่นนั้นต้องการความสำเร็จไม่น้อยกว่า 50% เพื่อจะให้เป็นการเล่นที่เป็นกำไร นั่นหมายความว่าผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Call ต้องการ MDF อย่างน้อย 50% ด้วย แต่จะแตกต่างออกไปใน Pot แบบ Multiway เนื่องจากผู้เล่นทุกคนมีความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงร่วมกัน
อัตราความสำเร็จของการ Bet (%) = ความถี่เป็นเปอร์เซ็นต์ที่จะ Callของผู้เล่นที่เหลือ x ผู้เล่นที่เหลืออยู่
หรืออาจเขียนเป็นสมการง่ายๆ ว่า
อัตราผู้เล่นที่จะ Fold(%) = เปอร์เซ็นต์ที่ผู้เล่นคนที่ 1 จะ Fold x เปอร์เซ็นต์ที่ผู้เล่นคนที่ 1 จะ Fold x เปอร์เซ็นต์ที่ผู้เล่นคนที่ 1 จะ Fold …..
เราสามารถทำความเข้าใจได้ว่า เมื่อมีผู้เล่นหลายคนที่ต้องตัดสินใจผู้เล่นคนสุดท้ายที่ตัดสินใจจะเป็นผู้เล่นที่คุ้มค่าที่สุด ทำให้การเล่นใน Pot แบบ Multiway มีแรงจูงใจจากความคุ้มค่าที่เกิดขึ้นนั่นเอง
จากภาพตัวอย่างเมื่อผู้เล่น Bet 100% ของ Pot หากมีผู้เล่นคนเดียว ที่ Call เขานั้นต้องการโอกาสชนะ 50% เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า แต่หากมีผู้เล่น 8 คน ความคุ้มค่าจะยิ่งสูงมากขึ้นจากโอกาสที่ลดลงเหลือเพียง 8% เท่านั้น ความแตกต่างอย่างมหาศาลนี้ทำให้เห็นว่า ในการเล่น แบบ Multiway นั้นควรให้ความระมัดระวัง กับการ Bet โดยเฉพาะการ Bluff เนื่องจากความคุ้มค่าที่มีผู้เล่นหลายคนนั้นมีร่วมกัน
3.เลือกเล่นไพ่ที่ดี Tight ให้มากขึ้น
จากหัวข้อที่ 2 ที่พบว่าการที่มีผู้เล่นหลายคนร่วมอยู่ใน Pot ทำให้มีความคุ้มค่าจากผลตอบแทน ต่อความเสี่ยง จึงนำคุณไปสู่พื้นฐานที่เรียบง่าย แต่มีความสำคัญนั่นก็คือ การเลือกไพ่ที่จะนำไปเล่นให้ Tight ขึ้น
การเล่นที่เรียบง่ายก็คือ เมื่อคุณ Bet คุณควรจะเลือก Range ที่มีความแข็งแกร่ง , Bluff ให้น้อยลง หรือ หยุด (คุณคงเข้าใจว่า คู่ต่อสู้มีโอกาส Call ได้มากขนาดไหนจากที่ได้กล่าวมา) เลือกเล่นไพ่ที่มี Equity ที่ดี
4.หยุด! ใช้ Range Bet
Range Bet ก็คือการ Bet โดยใช้ไพ่จากทั้ง Range ที่คุณมีโอกาสมีได้มาใช้ Bet ในบางสถานการณ์ ซึ่งโดยปกติจะใช้ Bet size ขนาดเล็กๆ เป็นการเล่นพื้นฐานสำหรับการเล่นแบบ Head up (เล่นสองคนแบบตัวต่อตัว) แต่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในการเล่นแบบ Multiway
ซึ่งกลยุทธ์ ในการ Range Bet นั้นมีจุดประสงค์ก็เพื่อกดดันให้คู่ต่อสู้หมอบ แต่ในการเล่นแบบ Multiway นั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้เล่นไพ่ที่กว้าง ทำให้การกดดันให้ผู้เล่นที่เหลือทั้งหมด หมอบไพ่ที่มีโอกาสที่จะติดอะไรบางอย่างนัั้นเป็นไปได้ยาก
แผนการเล่นของคุณก็คือ หยุด! ที่จะ Bet ไพ่ขยะใน Range ของคุณ Bet เฉพาะไพ่ที่ดี Check ไพ่กลางๆ เพื่อเล่นไปถึง Showdown
5.มุ่งเน้นไปที่ไพ่ที่มีโอกาสติด Nuts หรือไพ่ที่ดีที่สุด
เมื่อเราพูดถึงโอกาสติด Nuts เราหมายถึงไพ่ที่มีลุ้นที่จะเป็น หรืออาจใกล้เคียงที่จะเป็น
ยกตัวอย่างเช่น ไพ่ที่ Flop A♠Q♠8♥ คุณถือ K♠7♠ คุณมีโอกาสที่จะติดไพ่ที่ใหญ่ และ ดีที่สุด
แผนการเล่นนี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากในการเล่นแบบ Multiway มีโอกาสที่จะมีการ All-in ได้บ่อยครั้งในการเล่น เมื่อใดก็ตามที่คุณพิจารณาที่จะเล่นด้วยการ Semi-Bluff ให้คุณหยุดคิดว่า คุณมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด (การคำนวณ Out) และหากคุณติดคุณเป็น Nuts หรือไม่
อย่างไรก็ตามความถี่ในการ Bet นั้นมีความสัมพันธ์เป็นอย่างยิ่งกับ Nut-Advantage หากผู้เล่นที่มีความได้เปรียบ ใน Nut-Advantage ก็จะ Bet ได้มากขึ้น ส่วนผู้เล่นที่มีความได้เปรียบใน Range-Advantage ก็มักจะ Passive (ในกรณีที่ค่า SPR ต่ำ)
เมื่อทราบดังนี้แล้ว ลองพิจารณาจากตัวอย่างเมื่อคุณอยู่ที่ตำแหน่ง BTN บน Flop 753 กับคู่ต่อสู้ SB,BB แม้ว่าคุณจะมี Range ที่ได้เปรียบ คุณก็อาจถูกโจมตีจากไพ่ที่เข้าทางตำแหน่ง SB,BB ได้มากกว่า เนื่องจากเขาเหล่านั้นมีโอกาสที่จะมี Set หรือ 2pair ได้มาก
6.ผลตอบแทนสูงด้วย Implied Odd และ Reverse Implied Odd
ในการเล่น แบบ Multiway ผลตอบแทนจะเพิ่มสูงขึ้นจาก Implied และ Reverse Implied Odd ต่างจากในการเล่น แบบ Head-Up ชิพที่มีอยู่ของคู่ต่อสู้นั้นจะถูกคูณให้สูงขึ้นจากผู้เล่นที่มากขึ้นทำให้ความคุ้มค่าที่จะเล่นนั้นสูงขึ้นตามไปด้วย และผลของ Implied และ Reverse Implied odd ทำให้การนำไพ่เข้าไปเล่นใน การเล่นแบบ Multiway นั้น ควรจะเป็นไพ่สามารถเล่นได้ดีในการเล่นแบบ Multiway
7.ใช้ขนาด Bet Size ที่เล็ก
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วในหัวข้อข้างต้น “การเล่นแบบ Multiway ผู้เล่นจะเล่น Tight ขึ้น” นั่นหมายความว่า การที่คุณเลือกขนาด Bet Size ที่ใหญ่นั้น จะนำไปสู่การเล่นที่ผิดพลาดจากแรงจูงใจของชิปที่มีอยู่ใน Pot เมื่อใดก็ตามที่คุณถูก Call จะทำให้คุณเล่นยากมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
ในการเล่น Head-Up คุณอยู่ที่ตำแหน่ง BTN กับผู้เล่นที่ตำแหน่ง BB ที่ Flop A♣T♣2♠ คุณเลือกที่จะ Bet over Pot ใน Board นี้ ที่ 125% ผู้เล่นที่ BB โดยส่วนใหญ่จะเลือกหมอบให้คุณมากกว่าปกติ เนื่องจากคุณมีโอกาสมี A ที่แข็งแกร่งในฐานะที่เป็นฝ่าย Aggressive
แต่หากคุณเล่น Multiway โดยมีผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB ,BB ที่ Call เข้ามาเล่น ผู้เล่นทั้งสองคนมี MDF จากการ Over-Bet ที่ 125% ของคุณที่ 25% เท่านั้น ต่างจาก 44% ของการเล่นแบบ Head-Up ทำให้เขาอาจเลือก Call ได้ ทำให้การลงทุนครั้งนี้เป็นการเล่นที่ไม่คุ้มค่าใน Pot Multiway แบบนี้
8.ตำแหน่งที่ได้เปรียบจะทวีความได้เปรียบมากขึ้น
ตำแหน่งในการเล่นคือความได้เปรียบสูงที่สุดของการเล่นโป๊กเกอร์ เพราะคุณได้รู้ข้อมูลว่าคู่ต่อสู้ของคุณ เลือกเล่นอย่างไรและคุณเป็นคนสุดท้ายที่จะตัดสินใจรับมืออย่างไร ในทุกๆรอบของการเล่น และ ความได้เปรียบนี้จะทวีมากขึ้น ในการเล่นแบบ Multiway เนื่องจากคุณจะได้รับข้อมูลที่มากขึ้นกว่าเดิม จากผู้เล่นทุกคนที่เลือกตัดสินใจ และคุณจะเป็นคนสุดท้ายที่จะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร ความได้เปรียบนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้มากที่สุด
9.ไพ่ที่เป็น Blocker จะเพิ่มบทบาทมากขึ้น
ในการเล่นแบบ Multiway ไพ่ที่เป็น Blocker จะมีผลมากขึ้น เนื่องจากไพ่ที่เป็น Blocker จะมีผลกระทบต่อ Range ของผู้เล่นทุกคนที่ร่วมเล่น ยกตัวอย่างในการเล่น จากผู้เล่นที่ตำแหน่ง UTG เลือกที่จะ Open-Raise โดยคาดหวังให้ผู้เล่นอื่นหมอบ ?
จากภาพจะเห็นได้ว่า AKo มีโอกาสที่จะทำให้ผู้เล่นอื่นหมอบได้มากกว่า 22 เนื่องจาก AK นั้นเป็น Blocker ที่จะทำให้โอกาสที่ผู้เล่นอื่นจะถือไพ่ที่ดี แล้วนำมา Call ได้ลดลง ต่างจากไพ่ 22 ที่ เป็น Blocker ไพ่ที่ คู่ต่อสู้จะหมอบ (72 ,62 ฯลฯ) ซึ่งผลในการเล่นแบบ Multiway จะยิ่งมีสูงขึ้น ทั้งในรอบ Pre-Flop และ Post-Flop
10.Range ไพ่ที่ Capp จะถูก Exploit ลดลง
Capp Range หมายถึง Range ที่ไม่ได้มีไพ่ที่แข็งแกร่งซึ่งสำคัญมากในการเล่นแบบ Head-up เราต้องป้องกันไม่ให้ Range ของเราถูก Capp ทำให้ถูกคู่ต่อสู้โจมตีได้ แต่มันจะต่างออกไปเมื่อเป็นการเล่นแบบ Multiway เช่นเดียวกันกับ หัวข้อที่สองที่ความคุ้มค่าที่จะเสี่ยงของผู้เล่นทุกคนมีร่วมกัน ผู้เล่นที่มีความได้เปรียบ ในเรื่อง Range-Advantage นั้นต้องผ่านผู้เล่นหลายคนบนโต๊ะ
ลองทำความเข้าใจจากตัวอย่างโดยความแตกต่างของ Range ของผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big-Blind ด้านล่าง
ในการเล่นแบบ Head-Up เมื่อผู้เล่นที่ตำแหน่ง UTG open Raise ผู้เล่นที่ตำแหน่ง ฺBig-Blind เลือกที่จะเล่นดังภาพ
ในการเล่นแบบ Multiway เมื่อผู้เล่นที่ตำแหน่ง UTG open Raise ผู้เล่นที่ตำแหน่ง ฺBig-Blind เลือกที่จะเล่นดังภาพ
เมื่อเป็นการเล่นแบบ Head-up กับผู้เล่นที่ตำแหน่ง UTG
Big-Blind มีการเล่นที่น่าสนใจ เช่น เลือกที่จะ Call ด้วยไพ่ AKo AQo ฯลฯ (ภาพที่แรกที่เป็นสีเขียว) ในไพ่ที่แข็งแกร่งเพื่อวาง Trap หรือ ป้องกันไม่ให้ Range Capp หรือ คาดเดาได้ ต่างจากการเล่นแบบ Multiway ในรูปที่สองที่การเล่นจะต่างออกไปโดยเลือกที่จะ Squeeze ด้วยไพ่ชนิดเดียวกัน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้สามารถเข้าใจการเล่นใน Multiway Pot ได้อย่างถูกต้อง ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจาการเล่นของคุณได้ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า