การใช้กลยุทธ์ Over-Bet ที่ Flop (การวางเดิมพันที่มีขนาดมากกว่ากองกลาง) เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังมากหากใช้อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถสร้างกำไรสูงสุดจากไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณและทำให้คู่ต่อสู้หมอบไพ่ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในบทความนี้จะนำเสนอ 3 กลยุทธ์ที่แนะนำจากผู้เล่นมืออาชีพ
กลยุทธ์ที่ 1: ใช้กลยุทธ์นี้เมื่อขนาดชิป 100BB ในการเล่นแบบ Single-Raise Pot เท่านั้น
Single-Raise Pot หรือ SPR หมายถึงการเล่นที่มีผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ Raise ในรอบ Pre-Flop และผู้เล่นอีกคนเลือก Call จึงมีผู้เล่น 2 คนเข้าไปเล่นที่ Flop เหตุผลหลักคือการสร้างขนาดกองกลาง (Pot) ให้ใหญ่ที่สุดและเร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้สามารถ All-in ได้ง่ายในรอบถัดไป และลดความคุ้มค่าที่คู่ต่อสู้จะ Call ด้วย Pot Odds ที่ดีลง นอกจากนี้ยังช่วยให้การ Bluff ใน Range ของคุณมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับการ Over-Bet ที่ River การ Over-Bet ที่ Flop ยังเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้สามารถ Call ได้จากขนาดที่ยังไม่ใหญ่มาก เช่น การ Over-Bet ที่ Flop ด้วย 15 ชิป ในกองกลาง 10 ชิป เปรียบเทียบกับ Over-Bet ที่ River ด้วย 150 ชิป ในกองกลาง 100 ชิป จะให้ความรู้สึกแตกต่างในการตัดสินใจ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็น 150% ของกองกลางก็ตาม
**หมายเหตุ การใช้ Over-Bet ที่ Flop ไม่สามารถทำได้ในทุกบอร์ด คุณต้องเรียนรู้ว่า Flop ประเภทใดที่สามารถใช้ได้และไม่ได้
” คณิตศาสตร์เบื้องหลังกลยุทธ์ Over-Bet ที่ Flop “
ในการเล่นแบบ SPR หรือ Heads-up ขนาดของกองกลางจะอยู่ที่ประมาณ 6BB อาจมากหรือน้อยกว่านี้ และนี่คือแผนการ Bet ที่แนะนำเพื่อช่วยให้คุณ All-in ได้ที่ River หากไม่ได้ใช้ Over-Bet ที่ Flop
Option #1: Bet 33% ของกองกลางที่ Flop (2BB บนกองกลาง 6BB), Bet 135% ที่ Turn (13.5BB บนกองกลาง 10BB), และ Bet 220% ที่ River (81BB บนกองกลาง 37BB)
Option #2: Bet 75% ของกองกลางที่ Flop (4.5BB บนกองกลาง 6BB), Bet 135% ที่ Turn (20BB บนกองกลาง 15BB), และ Bet 135% ที่ River (74BB บนกองกลาง 55BB)
– Option #3: Bet 75% ของกองกลางที่ Flop (4.5BB บนกองกลาง 6BB), Bet 75% ที่ Turn (11BB บนกองกลาง 15BB), และ Bet 215% ที่ River (80BB บนกองกลาง 37BB)
ตัวเลือกทั้ง 3 ใช้การ Over-Bet โดยเฉพาะในการเล่นที่ River แต่เราขอเสนอทางเลือกที่ 4 ให้คุณพิจารณาดังนี้:
– Option #4: Bet 135% ของกองกลางที่ Flop (8BB ในกองกลาง 6BB), Bet 100% ที่ Turn (22BB ในกองกลาง 22BB), และ Bet 100% ของกองกลางที่ River (67BB ในกองกลาง 66BB)
ตัวเลือกทั้ง 4 ข้อ เป็นเพียงความคิดเห็นที่เสนอให้เห็นถึงภาพรวมของแผนการเล่น หากเราวางแผนที่ All-in ในท้ายที่สุดที่ River จะเห็นว่าแผนการเล่นใน Option ที่ 4 ให้ความรู้สึกที่เหมาะสมในการนำมาใช้จริง และ Solver ยังแนะนำให้ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน
มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเล่นใน Pot ที่มีการ 3-Bet และ 4-Bet ด้วย Stack 100BB เมื่อมีการ Re-raise หนึ่งหรือสองครั้งในรอบ Pre-Flop แผนการเล่นด้วยการ Over-Bet อาจไม่จำเป็น เนื่องจากคุณสามารถเล่นจนหมดหน้าตักได้โดยไม่ต้อง Over-Bet เพราะกองกลางใหญ่จากการเล่นในรอบ Pre-Flop แล้ว ตัวอย่างเช่น ในการเล่น 3-Bet Pot มักจะอยู่ที่ประมาณ 20bb มาจาก Pre-Flop ดังนั้นหากคุณ Bet 33% ที่ Flop และ 75% ที่ Turn คุณสามารถ All-in แบบสบาย ๆ ด้วยการ Bet เพียง 75% ในการเล่นที่ River
กลยุทธ์ที่ 2: ใช้กลยุทธ์นี้เมื่อ Flop มีความ Connect กันมาก
บนบอร์ดที่มีความ Connect และมี Draw ที่สามารถลุ้น Straight และ Flush ได้หลายแบบ (เช่น Q♥ T♣ 2♣ หรือ J♠ 9♦ 5♦) ทำให้มีความเป็นไปได้มากที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายคือคุณและคู่ต่อสู้สามารถมี Combo Draw (มีลุ้นหลาย ๆ แบบ) เช่น Flush-Draw + Open-End Straight-Draw (OESD) และ Gutshot-Straight-Draw (GSTD)
เมื่อคุณมีไพ่ Over-Pair เช่น AA, KK คู่ต่อสู้ของคุณที่กำลัง Draw และมี Equity สูง ๆ ในกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ มีความคุ้มค่าที่จะ Call หากคุณเลือก Bet ที่ 75% หรือ 100% ของกองกลางจากทั้ง Equity และ Implied Odds จึงเป็นปัจจัยหลักที่คุณควรพิจารณา Over-Bet Flop เหมือนที่ Solver แนะนำ เนื่องจากความคุ้มค่าของ Combo Draw ไพ่เหล่านั้น
ลองเปรียบเทียบระหว่าง Q♦ T♣ 2♣ กับ Q♥ T♦ 2♣ โดยจำลองการเล่นเมื่อคุณอยู่ที่ตำแหน่ง Button ทุกคนหมอบหมดจนมาถึงคุณที่เลือก Raise และผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big Blind Call เปรียบเทียบกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในจุดนี้กับไพ่ QT2 ทั้งสองสถานการณ์
สถานการณ์แรกมี Flush-Draw แต่สถานการณ์ที่ 2 ไม่มี โดยทดลองใช้ GTO Trainer เพื่อจำลองสถานการณ์และวางแผนกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาสำหรับสถานการณ์เหล่านี้สำหรับสถานการณ์แรก เมื่อ BB check ที่ Flop โปรแกรมแนะนำให้ Over-bet (6.65BB บน Pot 5BB) ที่ Flop นี้ Q♦ T♣ 2♣
เปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่สอง ที่โปรแกรมแนะนำให้ใช้ สำหรับบอร์ด Q♥ T♦ 2♣
จะเห็นได้ว่าโปรแกรมแนะนำ ขนาด Bet-size ที่เล็กลง ที่ 1.5BB บน Pot 5BB เป็นการยืนยันว่า บนบอร์ดที่ Connect กันมากๆนั้น Solver เลือกที่จะ Over-bet ถึง 32% เปรียบเทียบกับ บอร์ดที่ไม่มี Flush-Draw เพียง 14%
กลยุทธ์ที่ 3: Over-Bet ด้วย Polarize Range
เพื่อให้กลยุทธ์ Over-Bet มีประสิทธิภาพ คุณควรใช้ Polarize Range ซึ่งประกอบไปด้วยไพ่ที่แข็งแกร่งและ Bluff ดังนี้:
ไพ่ในกลุ่มที่มีความแข็งแกร่ง:
– Sets
– Two Pair
– Top Pair ที่มี Kicker ดี
– Top Pair ที่มี Draw เพิ่มเติม
ไพ่ในกลุ่มที่เป็น Bluff:
– ไพ่ในกลุ่ม Draw ที่ดี:
– Combo Draw ที่มี Draw หลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น Flush-Draw + Straight-Draw
– Flush-Draw
– Open-End Straight Draw มีลุ้น Straight จากไพ่ 2 ชุด
– Gutshot Straight Draw มีลุ้น Straight จากไพ่ 1 ชุด
– ไพ่คู่ต่ำกลางบนบอร์ด
– ไพ่ในกลุ่ม Draw ที่ไม่ดี:
– Backdoor Flush-Draw มีลุ้น Flush ในการเล่นต่อไปหากออกไพ่สีเดียวกันกับบนมือ
– Backdoor Straight-Draw มีลุ้น Straight ในการเล่นต่อไปหากออกไพ่ที่เรียงกับไพ่บนมือ
ตัวอย่างการใช้งาน:
พิจารณาสถานการณ์ที่คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Button และเลือก Raise ในรอบ Pre-Flop ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big Blind เลือก Call และ Flop เปิดออกมาเป็น Q♦ T♣ 2♣ Big Blind เลือก Check และคุณต้องตัดสินใจเลือกเล่น
ด้านล่างคือกลยุทธ์ที่แนะนำจาก GTO สำหรับการ Over-Bet ด้วย Polarize Range ในสถานการณ์นี้
จะเห็นได้ว่า Solver เลือกที่จะใช้ Bet-Size ขนาดเล็กๆ ที่ประมาณ 13% และเลือกที่จะ Over-bet โดยส่วนใหญ่ของไพ่ใน Range ที่ 32%
เมื่อลงพิจารณาถึงกลุ่มของไพ่ตาม กลุ่มที่เราเลือก Polarize Range โดยการใช้กลยุทธ์แบบ mixed
กลุ่มไพ่ที่แข็งแกร่ง
- Sets ได้แก่ คู่ QQ ,TT ,22 ที่ 100%
- Two-pairs ได้แก่ QT, Qts ที่ 100%
- Top Pair + Kicker ที่ดี AQ, KQ ที่ 100%
- Top Pair + flush draw ที่ 100%
ไพ่ในกลุ่ม Bluff
- Strong draws:
- Combo-draws (AcKc, AcJc, KcJc ,Kc9c ,Jc9c ,Jc8c, 9c8c) ที่ 100%
- Flush draws ที่ 50%
- Open-Enders ที่ 50%
- Gutshot Straight Draw (Kx9x, Jx8x , และ 9x8x ที่ 75%, AK และ AJ ที่ 25% )
- ไพ่คู่ต่ำกลางบนบอร์ด (A2s, K2s) ที่ 75%
- ไพ่ในกลุ่ม Draw ที่ไม่ดี
- Backdoor Flush-Draw (7d6d , 7d5d , Jd5d , Kd5d , Ac5x , Ac4x) ที่ 75%
- Backdoor Straight-Draw รวมถึงมีไพ่ Over-Card ลงมาถึง T ที่ไม่ใช่ A (Kh5h , Ks4s , Jh7h , Js6s) ที่ 25%
แม้ว่าแผนการเล่นนี้จะไม่รับประกันความสำเร็จ 100% แต่เป็นกลยุทธ์ที่มีความครบถ้วนและสามารถสร้างความลำบากในการตัดสินใจให้กับคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Big Blind ได้อย่างแน่นอน การใช้ Bluff ใน Range ที่เลือกจะเน้นไปที่การนำ Draw ที่มีความแข็งแกร่งมาใช้ในความถี่ที่สูงกว่าการใช้ Draw ที่ไม่ดี เนื่องจากเมื่อ Draw ประสบความสำเร็จจะให้ผลตอบแทนที่สูงตามแนวทาง Optimal และสัญชาตญาณในการเล่นของมนุษย์
สรุปบทความ
ทั้งหมดนี้คือแนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลังการ Over-Bet ที่ Flop ด้วยข้อมูลนี้ คุณควรนำกลยุทธ์เหล่านี้มาใช้ในแผนการเล่นของคุณเพื่อสร้างความยากลำบากในการตัดสินใจให้กับคู่ต่อสู้ของคุณ