แผนการเล่นอย่างดุดัน Aggressive คือวิธีการเล่นที่สามารถทำกำไรได้ดีที่สุดในการเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งกำไรที่หมายถึงนั้นเกิดขึ้นได้จากสองรูปแบบ
- คุณชนะจากการที่คู่ต่อสู้ Call ด้วย ด้วยไพ่ที่อ่อนกว่า
- คุณชนะจากการที่คู่ต่อสู้หมอบ
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางสถานการณ์ที่การเล่นแบบ Passive (การเล่นเป็นฝ่ายรับ ด้วยการ Call หรือ Check) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ในบทความนี้จะนำการวิเคราะห์จากตัวอย่างทั้งหมด 3 สถานการณ์ที่คุณควรจะหลีกเลี่ยงการทำ C-bet (continuation bet) ในฐานะผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Aggressive ด้วยการ Bet หรือ Raise ในการเล่นรอบ Pre-Flop
สถานการณ์ที่ 1 : เมื่อมีตำแหน่งในการเล่นที่เสียเปรียบ (เมื่อพบกับคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง BTN,CO หรือ MP) บนบอร์ดที่มีการเชื่อมโยงและไพ่ที่เปิดมีค่าต่ำ อย่างเช่นบอร์ดที่เปิดไพ่ที่ Flop ออกมาเป็น 6♣ 4♦3♣
คุณอาจคิดว่าเนื่องจากคุณเป็นฝ่ายที่ Aggressive ในรอบ Pre-Flop ทำให้ใน Range ของคุณ มีไพ่ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าคู่ต่อสู้ เช่น AA,KK,QQ ฯลฯ
คุณจึงคิดว่าควรใช้กลยุทธ์ที่จะกดดันคู่ต่อสู้ต่อเนื่องด้วยการ C-bet อย่างดุดัน
แต่ในกรณีนี้กลยุทธ์การเล่นแบบ Passive ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากมีการกระจายตัวของไพ่ที่แข็งแกร่งมาก Strong hands แบบไม่สมดุลกัน กล่าวคือ Range ของคู่ต่อสู้มีโอกาสสูงกว่าที่จะมีไพ่ที่แข็งแกร่ง เช่น ไพ่ Sets หรือ 2 Pair ในขณะที่ไพ่ใน Range ของเราไม่มี ดังนั้นการ C-Bet ใส่ผู้เล่นที่มีไพ่ที่แข็งแกร่งใน Range จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
เมื่อเรานำ Solver มาช่วยวิเคราะห์แผนการเล่น โดยการจำลองการเล่น ระหว่างเราในตำแหน่ง CO ที่เป็นฝ่าย Open-Raise กับ คู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง BTN ที่เลือก Call บน Flop 6♣ 4♦3♣
อย่างที่คุณเห็น Cutoff ควรเลือกที่จะ Check 100% ในการเล่นของเขา ที่ Flop นี้
เพื่ออธิบายเพิ่มเติมว่าทำไมกลยุทธ์แบบ Passive จึงเหมาะสม เราได้จำลองกลยุทธ์ โดยกำหนดให้ Cutoff เลือก ที่จะ C-Bet ในตัวเลือกต่างๆที่เรากำหนดให้ดังนี้
– ในเกือบทุกมือ ที่เป็น Over-pairs
– Top Pair
– Flush Draw เกือบทั้งหมด
– ทุกมือที่มีโอกาสลุ้น (Open-ended straight draws)
– บางมือที่มี 2 โอเวอร์การ์ดที่เป็นดอกจิก
แน่นอนว่าถ้าคุณเลือกที่จะ C-Bet ตัวเลือกต่างๆ ที่เลือกมาทั้งหมดนี้ ก็ดูเหมือนจะเหมาะสม และสมเหตุสมผลที่สุดที่เลือกจะ C-Bet ถูกต้องหรือไม่?
หลังจากที่กำหนดกลยุทธ์ที่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล (แต่ไม่สมบูรณ์แบบ) สำหรับการ C-Bet ตอนนี้เราจะทำการจำลอง กลยุทธ์ของคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง BTN เพื่อดูการตอบสนองที่ดีที่สุด
เรามาดูไปพร้อมๆ กันว่า คู่ต่อสู้สามารถตอบโต้กลยุทธ์ของเราได้ดีแค่ไหน
Solver เริ่มต้นด้วยการ Raise แทบทุกมือใน Range กลยุทธ์นี้ทำให้ผู้เล่นที่ตำแหน่ง CO สูญเสียความได้เปรียบในเกม และไม่สามารถหากลยุทธ์ตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพได้ เนื่องจาก BTN มีมือที่มีความแข็งแกร่งที่สุด Nutted Hands ใน range ของตัวเอง
ดังนั้นเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ในฐานะผู้เล่นที่เป็น Aggressor เป็นฝ่าย Open-Raise ในรอบ Pre-Flop ควรเล่นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างตั้งรับ (Passive/Defensive) ในการเล่นที่ Flop โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องพบกับคู่ต่อสู้ที่เก่ง
สถานการณ์ที่ 2 : การเล่น Out of Position ในฐานะ Pre-Flop Raiser จากตำแหน่ง Small Blind กับคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Big Blind บน Flop ที่เชื่อมมีความเชื่อมโยงกัน และมีค่าต่ำ
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการเล่นในรูปแบบนี้เหมือนกับตัวอย่างก่อนหน้า มันเกี่ยวข้องกับการที่ผู้เล่นใน Big Blind (Preflop-Caller) มีความได้เปรียบที่มีมือที่แข็งแกร่งมากกว่าบน Flop ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ทั้งสองฝ่ายมีการกระจายของมือที่คล้ายกัน
ยกตัวอย่างเช่น ฟลอป 7♥ 5♦ 4♣ โดย Solver เลือกกลยุทธ์ของผู้เล่นในตำแหน่ง Small Blind ดังนี้
จากภาพที่เห็นว่า Solver เลือกที่จะเช็ค Check แทบทั้งหมดใน Range ของเขา (สังเกตได้จากสีเขียว) ถึง 96.4%
เหตุผลที่ Solver เลือกกลยุทธ์ที่ตั้งรับ (Passive) มาจากความเสียเปรียบของ Small Blind ในการมีมือที่แข็งแกร่งใน Range น้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Big Blind
-Small Blind : 3.2% ของ Range มีไพ่ 2 Pair หรือดีกว่า
-Big Blind : 7.1% ของ Range มีไพ่ 2 Pair หรือดีกว่า
เหตุผลที่ Big Blind มีมือที่แข็งแกร่งมากกว่าเกิดจากความเป็นไปได้ที่เขาจะมีแฮนด์อย่าง 75o, 86o, 54o, 74s, และ 63s อยู่ใน Range ที่นำมา Call ได้ ซึ่ง Small Blind อาจเลือกที่ Fold หรือ Limp มากกว่า Raise ในการเล่นรอบ Pre-Flop ดังนั้นมือเหล่านี้จึงไม่ได้อยู่ใน Range ของ Small Blind
ดังนั้นคุณจึงควร เล่นอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อคุณมีมือที่แข็งแกร่งน้อยกว่าคู่ต่อสู้และอยู่ตำแหน่งในการเล่นที่เสียเปรียบ (out of position)
สถานการณ์ที่ 3 : การเล่น Out of Position ในฐานะผู้ที่ 3-Bet จาก Small Blind (กับคู่ต่อสู้ ที่ตำแหน่ง Button) บนฟลอปที่เชื่อมต่อกัน แต่มีค่าต่ำ
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม Flop ที่มีความเชื่อมต่อกัน แต่ค่าต่ำ ไม่ดีสำหรับผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Aggressive Pre-Flop
แต่ครั้งนี้เรากำลังพูดถึงสถานการณ์การเล่นใน Pot ที่มีการ 3-bet ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบได้บ่อย โดยเริ่มจาก ผู้เล่นในตำแหน่ง Button Open-Raise Pre-Flop คุณเลือกที่จะ 3-Bet จาก ตำแหน่ง Small Blind และ Button Call
นี่เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลเพราะว่า Range ของผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Open-Raise ในรอบ Pre-Flop ไพ่ใน Range ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยไพ่ที่มีค่าสูง และ Broadway cards ขณะที่ Range ของผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Call มักจะประกอบด้วยมือระดับกลางและต่ำมากกว่า
ในกรณีนี้ Small Blind มักจะได้เปรียบในมือที่เป็น Over-pair (เช่น AA, KK, QQ) แต่จะไม่มีมือที่เป็น 2Pair หรือ Straight ได้มาก(หรืออาจไม่มีเลย)
มาดูกันว่า Solver เลือกกลยุทธ์ในการเล่น ที่ Flop 7♦ 6♦ 5♣ ในกรณีที่ Small Blind เป็นฝ่าย 3-bet ได้อย่างไร
จากภาพแสดงให้เห็นว่า Solver เลือกที่จะ Check เกือบทั้งหมดของ Range (90%) ในกรณีนี้สาเหตุเกิดจากการที่ผู้เล่นในตำแหน่ง Small Blind มีไพ่ที่แข็งแกร่งน้อยกว่า อย่างเช่น ไม่มีไพ่สองคู่ (two-pair combinations) หรือไพ่เรียง (straight combinations) และยังไม่มีไพ่ที่เป็น Set ล่าง (Bottom set) ในขณะที่ Button สามารถมี Straight, 2-Pair และ Set ใน Range (ยกเว้น straight ด้วยไพ่ 43s)
หาก Small Blind ตัดสินใจที่จะ C-bet มากเกินไป (ด้วยไพ่ overpairs หรือ draws) Button จะสามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้โดยการเล่นอย่างดุดันมากขึ้นและเพิ่มกำไรด้วยไพ่ที่มี equity สูง ซึ่งจะทำให้ EV (expected value) ของ Small Blind เป็นลบได้
บทสรุป
แนวคิดที่แสดงในบทความนี้ค่อนข้างชัดเจน : Flop ที่มีความเชื่อมต่อกันแต่มีค่าต่ำ ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นฝ่าย Aggressive ในการเล่นรอบ Pre-Flop การเล่นใน Flop รูปแบบนี้ควรลดความ Aggressive ลงมากๆ มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการถูกกดดันกลับอย่างรุนแรงจากผู้เล่นที่เข้าใจว่าการ C-Bet ของคุณเป็นข้อผิดพลาด
ในกรณีของ Small Blind ที่มีการ 3-bet และ Flop ที่มีความเชื่อมต่อกันแต่มีค่าต่ำ ผู้เล่นในตำแหน่งนี้มักจะขาดมือที่แข็งแกร่ง เช่น 2-Pair , Straight หรือ Bottom set ซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังการ C-Bet ให้มากขึ้น เพราะถ้าเขาเลือกที่จะ C-Bet ด้วยแฮนด์ที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก (เช่น Over-pairs หรือ Draws) ผู้เล่นในตำแหน่ง Button สามารถทำกำไรได้มากขึ้นด้วยการ raise อย่างดุดันด้วย Range ที่มี Equity สูง ซึ่งจะลด EV ของ Small Blind ในมือได้อย่างมาก
โดยรวมแล้ว หากเจอ Flop ที่เชื่อมต่อกันแต่มีค่าต่ำ ควรปรับลดความดุดันในการเล่นของคุณลง มิฉะนั้นคุณอาจจะถูกโจมตีโดยผู้เล่นที่เล่นได้ดีและเข้าใจแนวทางที่คุณกำลังทำอยู่