สำหรับผู้เล่นใหม่การเรียนรู้คำศัพท์เบื้องต้นในการเล่นโป๊กเกอร์จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจพื้นฐานการเล่น ,กติกา หรือสามารถศึกษาทำความเข้าใจ และสื่อสารกับผู้เล่นอื่นได้อย่างถูกต้อง
ดังนั้นบทความนี้จะอธิบายคำศัพท์ พื้นฐานที่คุณควรรู้เบื้องต้น
เริ่มจากวิธีการเรียกตำแหน่ง
Early Position เป็นผู้เล่นตำแหน่งแรกๆ ที่ต้องเล่นก่อน โดยประกอบด้วย
UTG = Under The Gun ผู้เล่นคนแรกที่ต้องตัดสินใจในการเล่น
UTG2 =Under The Gun 2 ผู้เล่นคนที่สองที่ต้องตัดสินใจในการเล่น
Middle Position เป็นผู้เล่นในตำแหน่งถัดมาประกอบไปด้วย
MP1=Middle position 1 ผุ้เล่นคนที่สามที่ต้องตัดสินใจในการเล่น
MP2=Middle position 2 หรือ Lojack ผู้เล่นคนที่สี่ที่ต้องตัดสินใจในการเล่น
MP3=Middle position 3 หรือ Hijack ผู้เล่นคนที่ห้าที่ต้องตัดสินใจในการเล่น
Late Position เป็นผู้เล่นในตำแหน่งรองสุดท้าย(ในรอบ Pre-flop) ประกอบด้วย
CO=Cut off ผู้เล่นคนที่หกตัดสินใจในการเล่น Pre-flop
BTN=Button หรือ ปุ่ม ผู้เล่นคนที่เจ็ดที่ได้เปรียบที่สุดเพราะจะได้เล่นเป็นคนสุดท้ายของทุกรอบตอน Post-Flop
Blind เป็นผู้เล่นที่ต้องวางเดิมพันเพื่อจะได้รับแจกไพ่
SB =Small blind เป็นผู้วางเดิมพัน 0.5 เท่า ได้เล่นเป็นคนรองสุดท้ายในรอบ Pre-flop แต่ต้องเล่นเป็นคนแรกในรอบ Post-Flop
BB=Big blind เป็นผู้วางเดิมพัน 1bb ได้เล่นเป็นคนสุดท้ายในรอบ Pre-flop และเล่นเป็นคนที่สองในรอบ Post-Flop
คำศัพท์เกี่ยวกับการวางเดิมพัน
Call(c) = การวางเดิมพันตามที่มีผู้เล่น Bet เพื่อเข้าไปเล่น
Limp(l) = การวางเดิมพันต่ำสุดเท่ากับ Big-blind เพื่อเข้าไปเล่น
Raise(r) = การวางเดิมพันโดยการเพิ่มขนาดของเงินเดิมพันให้สูงขึ้น โดยที่ผู้เล่นอื่นจะต้องเพิ่มเงินเข้ามาเพื่อเข้ามาเล่น หรือที่ต่างประเทศเรียกว่า 2-bet เพราะ ผู้เล่น Big-blind จะเรียกว่า 1st bet
Check(x) = การผ่านการเล่นในรอบ Pre-flop สำหรับผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big-blind เมื่อไม่มีผู้เล่น Raise
และ การเล่นในรอบ Post-flop เป็นคนแรก หรือ ทุกคนก่อนหน้าคุณ check จนมาถึงคุณ
Voluntary Put Money in the Pot(VPIP) = เมื่อผู้เล่นคนนั้นเข้าไปเล่นโดยการ call หรือ raise ผู้เล่นที่
ตำแหน่ง Blind จะไม่นำรวมค่านี้ โดยจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ ในการเล่น
Raise First In (RFI) = เมื่อเป็นผู้เล่นคนแรกที่เลือกเล่นโดยการ Raise มีอีกชื่อเรียกว่า Open-raise
Steal = ทำการ Raise จากตำแหน่ง Late position เพื่อหวังที่จะขโมยบลายด์
Isolate = Raise หลังจากมีผู้เล่น limp เพื่อให้มีผู้เล่นเข้าไปเล่นน้อยที่สุดในรอบ Post-flop หรือเหลือเฉพาะ ผู้เล่นเป้าหมาย
Min-raise = ผู้เล่น Raise ด้วยราคาต่ำสุดที่อนุญาติให้ทำได้ หรือ 2 เท่าของราคาที่ผู้เล่นอื่น Raise
Over-bet = ผู้เล่น bet ด้วยขนาดใหญ่กว่าPot
Three Bet (3-bet) = เมื่อผู้เล่น Re-Raise ผู้เล่นก่อนหน้าที่ทำการ Raise เป็นคนแรก
Re steal = เมื่อมีผู้เล่น Steal จากตำแหน่ง Late แล้ว เราทำการ 3-bet เพื่อ steal จากเขาอีกที
All-in หรือ Jam หรือ Shove = วางเดิมพันด้วยชิพทั้งหมดที่มีฟรือเทหน้าตัก
Four-bet(4-bet) หรือ 5-bet หรือ อะไรก็ตามที่เป็นตัวเลข ตามด้วย bet หมายถึงการวางเดิมพันด้วยการ Raise เป็นคนที่ 4,5 ต่อๆ กันไป
Cold 3-bet หรือ Cold 4-bet = เป็นผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้เล่นแรกที่ Raise แต่ ทำการ 3-bet หรือ 4-bet
ยกตัวอย่าง UTG open 2bb, CO 3-bet 5bb BTN cold 4-bet 12bb ตรงนี้เรียก Cold 4b
Cold Calling(cc) = คล้ายกับ cold 4-bet คือ มีผู้เล่น Raise, Re-raise แล้วเราเลือก Call ตรงนี้เรียกว่า Cold calling
Squeeze(sqz) = เมื่อมีผู้เล่น Raise แล้วมีคนที่สอง Call เราเลือกที่จะ Re-raise ตรงนี้เราเรียกว่า Squeeze
ยกตัวอย่าง UTG open 2bb, CO call 2bb BTN Squeeze 12bb
Continuation Bet(C-bet) = การ bet ในรอบ Post-flop จากการที่เขาเข้ามาเล่นในรอบก่อนหน้าที่เขาเป็น Aggressor โดย Bet แล้วมีคน Call
Dunk Bet = การที่ผู้เล่นที่ Out of position เล่นในรอบก่อนหน้าด้วยการ Call แล้วมา bet ออกไปก่อน
Slow Play หรือTrap = การที่มีไพ่ดีๆ หรือสูงสุด แล้วหลอกให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองไพ่ดีกว่า หรือBluff
คำศัพท์อธิบายสถานการณ์ หรือลักษณะของโป๊กเกอร์
Active Player = ผู้เล่นที่ยังไม่หมอบ โดยปกติจะหมายถึงคู่ต่อสู้ของคุณ
Hero= ผู้เล่นที่เป็นฝ่ายแสดงผลการเล่น หรือ คุณเอง
Villains = ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหรือคู่ต่อสู้
Pre-flop = การเล่นในรอบที่ยังไม่มีการเปิด Community card ใดๆ
Post-Flop = การเล่นในรอบที่มีการเปิด Community card แล้ว
In Position(IP) = ผู้เล่นที่เป็นฝ่ายเล่นทีหลัง หรือเล่นในตำแหน่งที่ได้เปรียบ
Out of Position(OOP) = ผู้เล่นที่เป็นฝ่ายต้องเริ่มเล่นก่อน หรือเล่นในตำแหน่งที่เสียเปรียบ
Relative Position = ตำแหน่งที่ได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามในตลอดทุกรอบของการเล่น
First in =สถานการณ์ที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจเลือกเล่นเป็นคนแรก
Stack Size หรือ Stack Depth =ขนาดของเงินหน้าตัก
Effective stack= ขนาดของเงินหน้าตัก ของผู้เล่นที่สามารถจะเสียได้มากที่สุด
Bet-size = ขนาดของเงินวางเดิมพัน
The Nuts = ไพ่ที่สูงที่สุดหรือใหญ่ที่สุดไม่สามารถมีไพ่ใดมาชนะได้
Speculative Hand = ไพ่ที่สามารถพัฒนาต่อไปเป็นไพ่ที่สูงที่สุดหรือใหญ่ที่สุดได้ต่อไป
Air = ไพ่ที่ไม่มีลุ้นอะไร ไม่สามารถชนะคู่ต่อสู้ได้ นอกจากบลัฟ
Bluff Catcher = ไพ่ที่ไม่ได้ใหญ่ที่สุด แต่สามารถชนะไพ่ที่ไม่ได้ใหญ่ไพ่กลางๆ หรือ ไพ่ลักไก่ได้
Pure Bluff = การเล่นโดยการRaise ออกมาด้วยไพ่ที่มันไม่สามารถพัฒนาไปเป็นไพ่ที่ใหญ่ได้ หรือยังไม่ติดอะไรเลย เพียงมุ่งหวังจะให้ฝ่ายตรงข้ามหมอบ
Semi Bluff = การเล่นโดยการ Raise ออกมาเพื่อหวังให้ฝ่ายตรงข้ามหมอบ แต่ถ้าเขาไม่หมอบ ก็สามารถมีโอกาสที่จะไปติดไพ่ใหญ่ๆ แล้วกลับมาชนะได้
Showdown Value = ไพ่ที่พอจะชนะได้เมื่อเทียบกับ Range ของฝ่ายตรงข้ามเมื่อเล่นถึงใบสุดท้ายที่ River
Nut Advantage = ไพ่ใน Range มีโอกาสที่จะมี ไพ่ในกลุ่มเป็นไพ่ที่ใหญ่ที่สุด
Passive player = ผู้เล่นที่จะเล่นโดยการ Call หรือ Check มากกว่าที่ จะ Bet แม้จะมีไพ่ดีๆ ก็ตาม และมักจะหมอบเมื่อไม่มีลุ้นอะไร
Aggressive player = ตรงข้ามกับผู้เล่น Passive ผู้เล่นประเภทนี้จะชอบ Bet หรือ Raise เพื่อสร้างความกดดันให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา
Regular = หมายถึงผู้เล่นทั่วไป โดยหมายถึงผู้เล่นที่มีประสบการณ์อยู่บ้าง
Pocket pair = ไพ่คู่ต่างๆ เช่น 88 , 55, 99
Draw = ไพ่ที่รอลุ้นที่จะพัฒนาไปเป็นไพ่ที่สมบูรณ์
Gutshot = ไพ่ที่ต้องการมาประกอบให้เป็น Straight (เรียง) โดยมีค่าอยู่ตรงกลาง
เช่น 97 บนบอร์ด Q T 6
Open-Ended Straight Draw (OESD) = ไพ่ที่ต้องการให้มาประกอบเป็น Straight(เรียง) ที่มาต่อบนและล่างเช่น J9 บนบอร์ด Q T 6
Broadway = ไพ่ขอบ หรือ K ,Q ,J ,T
Coin Flip = สถานการณ์ที่ 50:50 ที่ต้องเสี่ยงโชคเหมือนการโยน หัว-ก้อย
Cooler = สถานการณ์ที่ผู้เล่นสองฝ่ายติดไพ่ที่ใหญ่และไม่สามารถหมอบให้อีกฝ่ายได้
Versus (vs) = เป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่าผู้เล่นใดปะทะกับผู้เล่นใด
Rake = ค่าธรรมเนียมในการจัดให้มีการเล่นโป๊กเกอร์
หวังว่าคงจะทำให้เข้าใจคำศัพท์ และสามารถนำไปใช้เพื่อศึกษา หรือทำความเข้าใจในการเล่นโป๊กเกอร์มากขึ้น