ในการศึกษาโป๊กเกอร์มีความรู้มากมายที่มุ่งประเด็นในการวางแผนการศึกษาไปที่แผนการเล่น วิธีรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ GTO Exploit Range ฯลฯ แต่มีคำแนะนำหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ หากไม่รู้ว่าจะศึกษาสิ่งใดเพิ่มเติม ให้ศึกษาการเล่นแย่ๆของตัวเอง ความหมายก็คือให้คุณมองหาข้อผิดพลาดในการเล่นที่ผ่านมาของคุณ และลดมันลงซึ่งคุณจะหามันได้ไม่ยาก
และด้วยปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การศึกษาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นสามารถนำมาเปรียบเทียบกับแผนการเล่นที่ได้รับการแนะนำโดยการทดลองผ่านการจำลองการเล่นมากกว่าล้านๆ รอบ จึงได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องในสถานการณ์นั้นๆ
ความผิดพลาดในรอบ Pre-Flop
เราเริ่มต้นด้วยการนำตัวอย่างการเล่น ง่ายๆ จากการแข่งขัน ทัวร์นาเมนต์ ที่มี Effective Stake หรือ ชิปหน้าตักที่ 40bb
จากภาพตัวอย่างเราได้แสดงถึง EV (Expect Value) ในไพ่ทุกๆใบที่สามารถนำไปเล่นด้วยการ Open Raise ซึ่งหากไพ่ที่ได้รับคือ AA จะเป็นไพ่ที่สามารถชนะทำกำไรได้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.05bb ในขณะที่ไพ่ 44 นั้นสามารถทำได้เพียงใกล้เคียงกับการเท่าทุน ที่ 0.01bb และไพ่ที่เราไม่นำมาเล่น เช่น Q8s นั้นมี EV อยู่ที่ 0
ซึ่งหากเราดูรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับแผนการเล่นกับไพ่ AA มี EV หรือโอกาสชนะ และทำกำไรได้ ที่ 8.01bb โดยเฉลี่ยสำหรับการ Open-Shove All-in ชิปทั้งหมดหน้าตัก แต่หากเลือก Open-Raise ที่ 2.3 bb จะมีผลตอบแทนที่มากกว่า อยู่ที่ 10.05bb โดยเฉลี่ยเนื่องจาก AA เป็นไพ่ที่แข็งแกร่งที่ต้องการให้คู่ต่อสู้เข้ามาเล่นด้วยมากกว่าที่จะไล่เขาออกจากการเล่น แต่สำหรับไพ่อย่างเช่น Q9s สามารถสร้างแผนการเล่นที่เป็นกำไร หรือ EV+ ได้จากการเล่นเพียงแบบเดียวด้วยการ Open-Raise (ถ้าเลือก All-in EVจะ ติดลบ) เหตุผลเนื่องจาก Q9s เป็นไพ่ที่สามารถนำไปเล่นต่อได้และพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นได้ หากเลือกที่จะ All-in นั่นหมายถึงคู่ต่อสู้จะ Call ด้วยไพ่ที่แข็งแกร่งกว่า Q9s โดยส่วนใหญ่
คำถามก็คือค่าที่แตกต่างกัน เพียงเล็กน้อยนั้นมีความจำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยไหม?..
หากในสถานการณ์ตัวอย่างที่เป็นการเล่นในรูปแบบทัวร์นาเมนต์นั้นก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบได้มาก แต่หากคุณเป็นผู้เล่น Cash Game การตัดสินใจเล่นที่มีผลเป็นลบย่อมหมายถึงความสูญเสียที่จะส่งผลกระทบในระยะยาว ในที่นี้ คือ -0.87/100 hands นั้นหมายความว่า ในกรณีที่คุณเล่นถึง 1,000 hands คุณติดลบไปแล้ว -8.7 bb
ความผิดพลาดในรอบ Post-Flop
เรามาสร้างตัวอย่างจากการเล่นจริง เพื่อทำความเข้าใจ ความผิดพลาดในรอบ Post-Flop เริ่มต้นด้วยการเล่นของผู้เล่นที่ตำแหน่ง UTG ที่มีขนาดชิปหน้าตัก อยู่ที่ 40bb เลือกที่จะ Open-Raise แล้วถูกผู้เล่นที่ตำแหน่ง SB 3-Bet กลับมา และ UTG เลือกที่จะ Call
Flop เปิดออกมาเป็น J♥J♦4♠ โดยที่ Flop นี้ ผู้เล่น SB Bet ออกมาด้วยขนาด 25% ของ Pot
จากภาพ Range ที่เป็นไปได้ ของ SB แสดงถึงแผนการเล่นที่สามารถ ใช้ Range-Bet ทำกำไรจากการใช้ขนาด Bet-Size เล็กๆได้ (ที่ 25% Pot)
ซึ่งเราได้นำรายละเอียดของแผนการเล่นมาวิเคราะห์ โดยพบว่า ทุกๆ ขนาดของการ Bet ในไพ่แทบทุกตัวใน Range นั้นที่มี EV เป็นบวกทั้งสิ้น ไม่ว่าไพ่นั้นจะแข็งแกร่งที่สุด (Nut) แข็งแกร่งปานกลาง หรือแม้ว่าจะยังไม่ติดอะไรเลย
ผลตอบแทนสูงที่สุดที่แนะนำคือการเลือกขนาด Bet-Size ที่ 25% ของ Pot นั่นเอง และสามารถ Bet ใหญ่ขึ้นได้ ในไพ่เช่น AJ ,KJที่เป็นไพ่ที่แข็งแกร่งที่สุด และ T8s ซึ่งเป็นไพ่ที่ยังไม่ติดอะไรเลยที่ 50% ของ Pot ความแตกต่างระหว่างทั้งสองขนาด นั้นอยู่ที่ 0.31bb อาจดูว่าเป็นเพียงความแตกต่างที่เล็กน้อย แต่หากเล่นไปที่ 100 Hands ความแตกต่างจะเพิ่มขึ้นเป็น 31bb และ 310bb ที่ 1,000 Hands ความแตกต่างนี้ยิ่งมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น
ในบทความนี้เราได้ศึกษาผ่านตัวอย่างถึงความแตกต่างของการตัดสินใจที่มีความผิดพลาด ระหว่างไพ่ที่อยู่ล่างสุดของโอกาสที่สามารถทำกำไรได้ใน Range กับไพ่ที่อยู่ในอันดับแรกของ Range ที่ไม่สามารถทำกำไรได้ โดยมองผ่านมุมมองเรื่อง EV ที่แสดงให้เห็นว่า ความผิดพลาด หรือรายละเอียดที่นำมาใช้ตัดสินใจส่งผลกระทบต่อการทำกำไรของคุณได้มากเพียงใด
- เราได้แสดงให้เห็นถึงความสูญเสียหรือลดลงของแผนการเล่นเปรียบเทียบกันในอีกรูปแบบ
- การเลือกหมอบไพ่ที่มีโอกาสชนะมากกว่า (Bad Fold) ในทางเทคนิคนั้นไม่ได้สร้างความสูญเสีย เพียงแต่ทำให้รายได้ลดลง แต่ไม่ได้เพิ่มรายจ่ายแต่อย่างได้ แต่กลับสร้างความสูญเสียทางด้านโอกาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณลงทุนวางเดิมพันลงไปแล้ว
- การ Bet ที่ผิดพลาดไม่ได้สร้างความสูญเสียให้กับคุณ เพราะคู่ต่อสู้อาจหมอบให้ก็ได้
- ความผิดพลาดจากการเลือก Call นั้นสร้างความเสียหายให้กับคุณได้มากกว่า
- ความผิดพลาดจากการ Bet หรือ Call สร้างความเสียหายเป็นทวิีคูณในการเล่นรอบต่อไปเนื่องจากขนาดของ Pot ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อทำการศึกษาถึงความผิดพลาดในการเล่น ขอให้จำไว้ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่ River นั้นสำคัญกว่าความผิดพลาดที่ Turn ความผิดพลาดที่ Turn นั้นสำคัญกว่าความผิดพลาดที่ Flop ฯลฯ
ดังนั้นการศึกษาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นจะช่วยให้คุณเล่น หรือแข่งขันโป๊กเกอร์ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ที่สุดไม่เกิดข้อผิดพลาดเหล่านั้นขึ้นอีก นอกจากนั้นยังหมายรวมถึงการเพิ่มรายได้หรือผลตอบแทนโดยลดความสูญเสียจากความผิดพลาดเหล่านั้นอีกด้วย