ทำความเข้าใจกับ Equity Realization

ก่อนที่เราจะทำความเข้าใจกับ Equity Realization เรามาทำความเข้าใจให้ถูกต้องในเรื่อง Equity และ EV หรือ Expect Value

 

Equity – Expect Value

Equity ในทางโป๊กเกอร์นั้นหมายถึง ส่วนแบ่งของเงินกองกลางที่จะสามารถได้รับ (หรืออาจเรียกว่า โอกาสชนะ) ระหว่างไพ่ของคุณ กับ ไพ่ หรือ Range ของคู่ต่อสู้ โดยแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์เฉลี่ย เมื่อเล่นถึงการเล่นสุดท้าย ด้วยการ Showdown

 

EV หรือ Expect Value นั้นหมายถึง ค่าความคาดหวัง หรือ ค่าของผลตอบแทนจากการตัดสินใจ ซึ่งจะแสดงเป็นค่าตัวเลขที่หมายถึงจำนวนเงิน โดยหากการตัดสินใจของเรานั้นมี EV+ มีค่าเป็นบวก นั่นหมายความว่าการตัดสินใจในครั้งนั้นเราสามารถสร้างกำไรให้กับการเล่นได้ ยิ่งบวกมากก็หมายถึง กำไร หรือผลตอบแทนมาก

 

Equity Realization

Equity realization (EQR) นั้นต่างจาก Equity ก็คือ ค่า Equity นั้นเป็นค่าคงที่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของไพ่ที่ทั้งสองฝ่ายถือ (หรือทุกคนที่มีส่วนร่วมใน Pot) ส่วน Equity realizationคือค่าที่จะบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ ขณะที่เกิดการเล่นจริงว่ามีโอกาสที่จะชนะในสถานการณ์การเล่นต่างๆ ซึ่งรวมถึง Action ที่ใช้ในการ Bet , Position ที่ทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบ และมีโอกาสชนะมากขึ้น ฯลฯ ทำให้ Equity realize นั้นสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงจาก Equity จริงระหว่างไพ่ของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในการเล่นนั้นๆ

 

Equity realization เปรียบเหมือนสะพานระหว่าง Equity กับ Expect Value โดยมีสูตรที่ใช้คำนวณหาค่า EV ดังนี้

Equity × EQR × pot = EV

 

Over-Realizing Equity

Over Realize Equity นั้นหมายถึงการที่คุณสามารถทำกำไรจากไพ่ที่คุณมีสูงเกินกว่า Equity ที่มีอยู่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากสองสาเหตุได้แก่

  1. การวางชิปเดิมพันเพิ่มขึ้น ในการเล่นที่มีโอกาสชนะ

ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่ผู้เล่นวางเดิมพันชิปด้วยไพ่ที่มีโอกาสชนะสูงกว่า หรือ Value Bet หรือจากการชนะด้วยการ Call ไพ่ที่คู่ต่อสู้ Bluff

  1. การเดิมพันกดดันจนคู่ต่อสู้ต้องหมอบไพ่ที่ยังพอมีโอกาสชนะ

การกดดันคู่ต่อสู้ด้วยการ Bluff 🕶 คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของหัวข้อนี้ แต่ยังหมายถึงการที่ไพ่ที่มี Equity สูงมากๆ ที่ Bet แล้วคู่ต่อสู้ตัดสินใจที่จะหมอบอีกด้วย (เนื่องจากคู่ต่อสู้ยังมีโอกาสที่จะพลิกกลับมาชนะได้อยู่ แต่ทิ้งโอกาสนั้นไป)

 

ทำความเข้าใจจากตัวอย่างง่ายๆ

เมื่อคุณได้รับ ไพ่ AA เหลือคู่ต่อสู้ อีกคนเดียวที่ถือ ไพ่ 72o  โดยที่สมมุติว่ามีชิปอยู่ที่ Pot ในขณะนั้นที่ 100$ การที่คุณถือไพ่ AA นั้นมี Equity (โอกาสที่จะชนะ 72o) อยู่ที่ 88% หรือ มีส่วนแบ่งที่ Pot อยู่ 88$ (ตามนิยามของ Equity) หากคุณเลือกที่จะฺ Bet All-in ด้วยชิปที่เหลืออยู่ทั้งหมด ที่ 100$  แต่น่าเสียดาย คู่ต่อสู้ของคุณหมอบ คุณจะได้ ชิปทั้งหมด ที่อยู่ใน Pot คือ 100$ นั่นเท่ากับ 114% ของ Equity ซึ่งมากกว่า Equityที่คุณมีจริง ที่ 88%

 

แต่หากคู่ต่อสู้ของคุณ Call คุณอาจคิดว่า ดีมาก ! แต่ยังก่อน คุณมีโอกาสชนะ 88% ไม่ใช่ 100% คุณยังมีโอกาสที่จะแพ้ 72o อยู่ แต่ขณะนี้ มี ชิปกองกลางที่ Pot อยู่ที่ 300$ ซึ่ง 88% หมายถึง ชิป 264$ หากลบ 100$ ที่คุณ Bet ลงไปนั้นหมายถึงโอกาสที่คุณจะมีกำไร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 164$ หรือคิดเป็น เปอร์เซ็นต์ ที่ 186% มากกว่าที่ Equity ที่คุณมี ก่อนที่่คุณจะ Bet ที่ 88%

ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถ over-realize equity ของคุณให้สูงขึ้น (หรือทำกำไร เป็นผลตอบแทนได้มากกว่า Equity ที่มี) โดยการวางเดิมพันเพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้ และนี้คือหนึ่งในหลายๆสิ่ง ที่ไพ่ที่มีความแข็งแกร่ง มี! ไม่เพียงแต่มี Equity ที่มากเพียงเท่านั้น ยังสามารถ Bet เพื่อทำให้ Equity เกิด over-realize ได้ด้วยการ Bet ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมากว่าเดิมได้อีกด้วย

 

Bluffing

ไพ่ที่อ่อนแอนั้นก็สามารถนำมาใช้ให้เกิด over-realize ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่การที่เรา สามารถจะทำให้ไพ่ที่ถืออยู่มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นได้ แต่ใช้แผนการ Bluff ยกตัวอย่างง่ายๆ จากการเล่นที่ River โดยการ Bluff ด้วยไพ่ที่ไม่สามารถขนะได้ และ คู่ต่อสู้ก็มักจะไม่หมอบให้มากพอที่จะทำให้การ Bluff ที่ River เช่นนี้เป็นกำไร แต่ด้วยไพ่ที่แทบจะไม่มี หรือมีโอกาสน้อยที่จะชนะ เมื่อ showdown การ Bluff จึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเลือกที่จะ Check ไปดู showdown ที่มีโอกาสชนะ ใกล้จะ 0%

 

 

การหาค่าของEquity Realization

Equity realization ไม่สามารถคำนวณจากความแข็งแกร่งของไพ่ที่คุณถืออยู่ได้ จำได้ไหมว่า ไพ่ที่อ่อนแอก็ยังสามารถสร้าง Equity realize ให้มากขึ้นโดยการ Bluff ให้เกิด over-realize equity ได้ แต่สิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือ EV อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณ มองภาพรวมของ Equity ที่คุณมีรวมกับโอกาสที่คุณสามารถเพิ่ม Equity realize ได้ คุณจะเริ่มมีแผนการเล่นที่ดีที่สุดสำหรับไพ่ที่คุณถือ

 

Equity realization ที่จะเพิ่มหรือลดนั้นขึ้นอยู่กับตัวแปร ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งในการเล่น (Position) ,ไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ด (Board texture) ,ขนาดของชิปที่ผู้เล่นมี หรือ ถืออยู่  (Stack size) , Range ที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายมีความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ฯลฯ เราไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ไพ่ใดมี Equity realize ที่ดีกว่าคู่ต่อสู้เท่าใด ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ จากตัวแปร ดังกล่าว  นอกจากคุณจะใช้Solver ในการจำลองการเล่นโดยให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเลือกแผนการเล่นที่เป็น Equilibrium จึงจะสามารถมองเห็น Equity realize และ EV ได้อย่างถูกต้องล่วงหน้าจากแผนการเล่นนั้นๆ แต่เรามี ข้อแนะนำดีๆ เพื่อสามารถนำไปใช้ดังนี้

 

  1. ไพ่ที่ใช้เล่นทั้งหมดจะมี Equity realize ที่ลดลงหากเล่นจากตำแหน่ง Out of position หรือเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นนั่นเอง
  2. ไพ่ที่สามารถพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นในการเล่นรอบต่อไปนั้นจะ มี Equity realize ที่สูงขึ้น ซึ่งเมื่อสามารถพัฒนาได้แล้ว สามารถใช้ Value Bet ทำให้ Equity realize นั้น Over-Realizing ได้ ส่วนไพ่ที่ อ่อนแอ ต้องอาศัย Blocker ที่ดี เพื่อให้การBluff นั้นสามารถ เป็นการเล่นที่ทำกำไรได้
  3. ในทางกลับกันของข้อ 2 หากไพ่ที่นำมาเล่นนั้น ไม่สามารถพัฒนาเป็นไพ่ที่แข็งแกร่งได้          เป็นได้เพียงแค่ไพ่กลางๆเท่านั้น  จะทำให้การเล่นนั้นเป็นการ Under-Realize equity (ตรงกันข้ามกับ Over ที่อธิบายไว้จากตัวอย่างข้างต้น)
  4. Equity realize นั้นเป็นค่าที่ขึ้นอยู่กับโอกาสในการเล่นของคุณ และคู่ต่อสู้ในรอบต่อๆไป ยกตัวอย่างเช่น หากคาดหวังว่าคู่ต่อสู้จะ Call Value Bet ของคุณ และเขาไม่ทำเช่นนั้น นั่นทำให้ Equity realize ของคุณนั้นต่ำกว่าที่คาดได้
  5. เมื่อใดก็ตามที่ Range ของคุณประกอบไปด้วยไพ่ส่วนใหญ่ที่อ่อนแอ ไพ่ที่แข็งแกร่งในRange ของคุณจะมี Realize Equity ที่สูงขึ้น และเช่นเดียวกัน หากไพ่ใน Range ของคุณส่วนใหญ่เป็นไพ่ที่แข็งแกร่ง ไพ่ที่อ่อนแอใน Range ของคุณก็จะมี Realize Equity ที่สูงขึ้น
  6. Range ที่แข็งแกร่ง นั้นมีโอกาสที่จะเพิ่ม Realize Equity เนื่องจากมีโอกาสที่จะสร้างความกดดันจนคู่ต่อสู้ต้องหมอบ หรือที่เรียกว่า Fold Equity ให้เพิ่มมากขึ้น

 

สรุปบทความ

Equity realization เป็นเหมือนสะพานระหว่าง equity และ expected value  โดย Equity Realize จะเกิดขึ้นเป็นบวกหรือลบ เมื่อใดก็ตามที่คุณตัดสินใจการเล่นอะไร ลงไป ดังนั้น กรุณานำความรู้จากบทความนี้ไปเป็นแนวทางในการใช้ไม่ว่าจะเป็นการ  Over-realize โดยการใช้ Equity พื้นฐานที่มีวางแผนการเล่นที่จะเกิดขึ้น

Share to