เหตุใดคุณจึงไม่ควร Cold Call เมื่อมีการ 3-Bet

เมื่อมีผู้เล่นก่อนหน้าคุณ Raise และ Re-Raise เกิดขึ้น แผนการเล่นของคุณต่อจากนี้จะต้องเล่นอย่างรัดกุมที่สุด เลือกไพ่ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นมาเล่นโดยไม่ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ อีกต่อไป เช่น ตำแหน่งในการเล่นของคุณ , ตำแหน่งในการเล่นของผู้เล่นอื่น , Effective Stack ที่มีอยู่ของผู้เล่น แน่นอนว่าความเข้าใจส่วนนี้ถูกต้องสำหรับผู้เล่นทั่วไป แต่มันถูกต้องครบถ้วนจริงหรือไม่?

ปัญหาต่อมาที่ยุ่งยากก็คือ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมว่า

• คุณต้องทำอย่างไรหากคุณไม่การ Fold ?
• คุณต้องมีไพ่ที่แข็งแกร่งมากขนาดไหนจึงจะ 4-Bet กลับไปได้?
• คุณควรหรือสามารถ 4-Bet Bluff ได้หรือไม่ ?
• คุณควรหรือสามารถ Cold Call ได้หรือไม่?
• หากคุณเลือกที่จะ 4-Bet คุณควรเลือกขนาด Bet-Size เท่าใด?

ในบทความนี้ เราจะตอบคำถามทั้งหมดเหล่านี้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า คุณจะนำกลยุทธ์ไปใช้ได้อย่างถูกต้องในการเล่นของคุณได้อย่างไร

Cold Call จากตำแหน่ง BTN

หากคุณไม่ใช่ผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Raise เป็นคนแรก คุณไม่ควรที่จะ Call 3-Bet !
หากไพ่ที่คุณถืออยู่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะ 4-Bet มันก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าไปเล่น !

สองประโยคข้างต้นตอบคำถามทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วนที่สุดให้กับคุณได้ .. แต่มันยังมีข้อยกเว้นเพียงประการเดียวเท่านั้น นั่นคือ คุณมีชิปหน้าตักมากและอยู่ที่ตำแหน่ง BTN

ตารางด้านล่างแสดงให้เห็นแผนการเล่นที่ GTO แนะนำให้ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Button เล่น ในกรณีที่มีผู้เล่นก่อนหน้า Raise และ 3-Bet

ซึ่งจะพบว่า

1. หากตำแหน่งของผู้เล่นอยู่ในตำแหน่ง Early-Position ทั้งฝ่าย Open-Raise และ 3-Bet ผู้เล่นในตำแหน่ง BTN จะยิ่งลดการ Call ลง
2. การ Call สามารถทำได้ในกรณีที่มี Stack หรือ ชิปหน้าตัก มากกว่า 100bb ขึ้นไปเท่านั้น และ เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ผู้เล่นในตำแหน่ง Late Position เป็นฝ่าย Raise และ 3-Bet
3. แผนการเล่นแนะนำให้ Fold มากกว่า 97% แรงจูงใจส่วนใหญ่ในการ 4-Bet ของ BTN คือการ Isolate ผู้เล่นให้ลดลง เนื่องจากการ Call ทำให้เกิดความคุ้มค่าที่น่าสนใจแก่พวกเขาที่จะ Call เข้ามาเล่นได้ง่ายขึ้น ยิ่งชิปหน้าตักมีขนาดมากขึ้นเท่าใด ผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Raise เป็นคนแรก ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบจากการเล่นที่ต้องเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นในรอบต่อไปมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการ Call หรือแม้แต่การ 5-Bet จึงไม่ค่อยเกิดขึ้นได้บ่อยเท่าใดนัก

และรูปด้านล่างคือ Range ที่แนะนำให้ผู้เล่นในตำแหน่ง BTN ใช้ในการเล่นนี้

จากภาพเราจะเห็นว่า Range โดยส่วนใหญ่จะเป็นไพ่ที่เป็น Condense Range (ช่วงไพ่ที่มีความใกล้เคียงกันในแง่ของความแข็งแกร่ง ) โดยเลือกที่จะ Cold 4-Bet Raise ในไพ่ที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึงบางตัวที่เป็น Blocker ที่ดีแต่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะนำมา Call

ไพ่โดยส่วนใหญ่ที่แนะนำให้นำมาใช้ Call ได้แก่ไพ่ สีเดียวกันที่มีค่าสูงๆ (Suited hand) ร่วมกับ Pocket ตั้งแต่ 99-QQ ที่มี Equity สูงพอที่จะเล่นใน Pot ที่เป็น Multiway ได้

และด้วย Low-Frequency Call จะทำให้สามารถเล่นได้บนบอร์ดที่หลากหลาย (Board Coverage) มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่บอร์ดเปิดไพ่ที่ไม่น่าจะมีใครมีไพ่ที่แข็งแกร่งบนบอร์ดที่มีการ 3-Bet แต่การ Call ของ BTN นั้นจะทำให้ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีไพ่ที่แข็งแกร่ง Connect กับบอร์ดได้

Cold Call จากตำแหน่ง Big-blind

จากตัวอย่างที่ผ่านมา เราทราบว่า สามารถ Cold Call ได้บ้างหากเล่นจากตำแหน่ง BTN เนื่องจากความได้เปรียบตำแหน่งในการเล่น แต่ เมื่ออยู่ที่ตำแหน่ง Big-blind เราจะสามารถ Cold Call และมีความได้เปรียบตำแหน่งได้ในกรณีเดียวเท่่านั้น คือ มีผู้เล่นที่ตำแหน่ง Late-Position (CO/BTN) Open-Raise และ ผู้เล่นในตำแหน่ง SB 3-Bet และแผนการเล่นที่สามารถเล่นได้ตามคำแนะนำในภาพด้านล่าง

จากภาพจะเห็นได้ว่า การ Cold Call นั้นขึ้นอยู่กับ ขนาดของชิปหน้าตักที่มีอยู่ของเรา และ การ Cold-Call จะยิ่งลดประสิทธิภาพลงหากผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Open-Raise ขยับตำแหน่งขึ้นไปมากขึ้นเนื่องจาก Range ที่แข็งแกร่งของเขานั่นเอง

ภาพด้านบนแสดงให้เห็น Range ของ ตำแหน่ง Big-Blind ที่สามารถนำมาเล่นได้ ซึ่งดูใกล้เคียงกับ Range ที่ผู้เล่นตำแหน่ง BTN สามารถเล่นได้ในหัวข้อที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่  ไพ่ที่เป็นสีเดียวกันที่มีค่าสูงๆ (Suited) และ ไพ่คู่กลางๆ (Mid Pocket Pair)

ICM

คำถามที่พบได้บ่อยในการแข่งขันโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ ก็คือ ทำไมผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกที่จะ Cold-Call 3-bet แทนที่จะ 4-Bet ด้วยไพ่ที่แข็งแกร่งพอที่จะทำได้ คำตอบก็คือ มันเป็นการเล่นที่พยายามหาทางเลือกที่ปลอดภัย และ ความผันผวนต่ำกว่า โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างชิปกองกลางให้มีขนาดใหญ่ และ มีโอกาสที่จะ All-in Pre-Flop ได้ง่ายกว่า

แต่ Cold-Call 3-Bet ไม่ใช่ทางเลือกที่ช่วยลดความผันผวน

จากการนำแบบจำลอง ICM มาใช้เพื่อคำนวณ มันพบความชัดเจนที่ว่า การเล่นด้วยการ Cold-Call ไม่ใช่ทางเลือกที่ช่วยลดความผันผวน แต่กลับกัน โปรแกรมลดการ Call ลง แต่กลับเพิ่มการ Raise (4-Bet) และ Fold ให้มากขึ้น เนื่องจากเป้าหมายในการเล่นจนถึง Showdown เป็นการสร้างความผันผวนให้เกิดขึ้น (ยิ่งเล่นหลายๆ Street ยิ่งสร้างความผันผวน) และ การ Call ทำให้มีโอกาสที่จะต้องเล่นจนถึง Showdown ได้มากกว่า

ไม่มีความผันผวน จากตัวแปรเพิ่มเติมเมื่อ คุณเลือก Fold  และ เมื่อ คุณ Raise คุณสร้างโอกาสกดดันให้คู่ต่อสู้ Fold ซึ่งผลลัพธ์ที่รับก็คือการลดความผันผวนจากตัวแปรได้นั่นเอง

เมื่อคำนวณความคุ้มค่า โดยนำ ICM มาใช้เป็นปัจจัยหลักในการคำนวณ (โดยที่ชิปที่ได้มีค่าน้อยกว่าชิปที่เสียไป) หากนำมือที่มีความแข็งแกร่งมาก มา Call แทนที่จะ Raise นั้นสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากโอกาสพลาดเสียชิปกองกลาง เพื่อแลก กับโอกาสที่จะชนะชิปกองกลางที่ใหญ่กว่า  ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ ICM สนับสนุน โดยการนำมือที่อ่อนแอกว่ามาใช้ Call แทนที่จะ Fold ในโมเดล ChipEV ที่คาดว่าจะเสียชิปกองกลางเล็กน้อยหรือปานกลางค่อนข้างบ่อย เพื่อแลกกับชัยชนะครั้งใหญ่เป็นครั้งคราว

Raise Sizing ขนาดที่ควรเลือกใช้ในการ 4-Bet

เหตุผลที่ผู้เล่นหลายคนกลัวที่จะ 4-Bet เนื่องจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขนาดที่ใช้ว่าควรมีขนาดใหญ่เท่าใด โดยปกติขนาดของการ 3-Bet มักจะอยู่ที่ประมาณสามหรือสี่เท่าของการ Raise ครั้งแรก ดังนั้นผู้เล่นหลายคนจึงเกิดความคิดที่จะใช้รูปแบบเดียวกันนี้กับการ 4-Bet อย่างไรก็ตาม ขนาดการ 4-Bet โดยเฉพาะการ การ Cold 4-Bet ควรเลือกใช้ขนาดที่เล็กกว่านั้นมาก มีหลายสาเหตุที่เป็นเช่นนี้

• ขนาด 4-Bet ที่ใช้ขนาดเล็กก็เพียงพอที่จะทำให้ SPR ต่ำพอที่จะ Stack-off (การเล่นเพื่อการ All-in) แม้ว่าชิปหน้าตักของผู้เล่นจะมีสูงถึง 100BB ก็ตาม
• ด้วยการ 4-Bet ไม่ว่าจะใช้ขนาดใดก็ตาม จะสร้าง Fold Equity จนทำให้ คู่ต่อสู้กดดันและไม่สามารถใช้เพียง Pot-Odd เพียงอย่างเดียวมาช่วยในการตัดสินใจ Call 4-Bet ได้ เนื่องจากต้องพิจารณาความเสี่ยงในการเล่นที่ Flop เพิ่มเติมด้วย จากการที่มี SPR ต่ำ
• แม้ว่าการ 4-Bet จะไม่สามารถกดดันผู้เล่นที่เป็นฝ่าย 3-Bet ได้มากนัก แต่ก็สามารถกดดันผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Open-Raise ทำให้ไพ่ที่ไม่แข็งแกร่งใน Range ของเขาต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เล่นต่อได้อย่างยากลำบาก ซึ่งขนาดที่ใช้ในการ 4-Bet ไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดที่ใหญ่เลยในการบรรลุจุดประสงค์ในข้อนี้
• Cold 4-Bet Ranges เป็น Range ที่มีความแข็งแกร่ง ดังนั้นการใช้ขนาดเล็ก ช่วยให้คู่ต่อสู้สามารถตัดสินใจ Call ด้วยไพ่ที่ไม่แข็งแกร่งมากนักได้

บทสรุป

มีเพียงไม่กี่มือที่แข็งแกร่งพอที่จะนำมา Raise และ 3-Bet ได้ก่อนการเล่นของคุณ แม้ว่าคุณจะเชื่อว่าไพ่ของคุณมีความแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นที่เป็นฝ่าย 3-Bet แต่คุณก็ยังต้องกังวลกับผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Open-Raise (ที่ยังไม่ทราบว่ามี Range ที่แข็งแกร่งมากขนาดไหน) ดังนั้นคุณควร Fold ไพ่ของคุณเกือบทั้งหมดทิ้งไป โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งในการเล่น หรือชิปที่คุณมีอยู่

แต่หากคุณเลือกที่จะเล่นคุณควรเลือกที่จะ 4-Bet มากกว่า โดยเลือกใช้ขนาด Bet-Size ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ด้วยไพ่ที่แข็งแกร่งเท่านั้น นอกจากนั้นก็ควร Fold โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการนำ ICM มาเป็นปัจจัยหลักในการคำนวณ