เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า 12 ปี ที่ Leonard ได้เริ่มต้นอาชีพโป๊กเกอร์ ซึ่งในครั้งแรก เขาเริ่มต้นจากการเล่น Cash Game ซึ่งเป็นเกมที่ Leonard เล่นมาโดยตลอด
เขาได้กล่าวว่า:
“สไตล์การเล่นของผมเหมาะกับ Cash Game มากกว่าการแข่งขัน Tournament”
โดยเฉพาะการเล่นด้วยเทคนิค การนำชิปเข้าไปเล่นเยอะ ๆ (Deep-Stack) เนื่องจากเขาชอบแนวคิดของ การเล่น Pot ใหญ่ ๆ รวมถึง แนวคิดของการ Flat-Call 3-Bet เท่านั้น เพื่อเข้าไปติดอะไรที่แข็งแกร่ง หรือถ้าหากไม่ติด ก็ทำเหมือนว่ากำลังมีไพ่ที่แข็งแกร่งแทน
ทุกครั้งที่กลับมาเล่นที่อังกฤษ เขามักจะเปลี่ยนจากการแข่งขันในรูปแบบ MTT เป็น Cash Game ไม่เพียงแค่เหตุผลข้างต้น แต่ยังรวมถึงเรื่องของเขตเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องปรับตัวอย่างมาก
ดังนั้นเขาจึงเล่นโป๊กเกอร์ในรูปแบบ Heads-Up, 6-max (100BB) และ ANTE 9-handed ซึ่งเขามีความสุขกับเกมเหล่านี้มาก และที่สำคัญ มันทำให้เขามีไอเดียใหม่ ๆ สำหรับนำกลับไปใช้ในการแข่งขัน MTT ด้วย
เกมที่ Leonard คิดว่าควรมีให้เล่นทางออนไลน์
มีเกมหนึ่งที่เขาคิดว่าควรมีการเปิดให้เล่นทางออนไลน์ นั่นก็คือ Cash Game ในรูปแบบ 8 ผู้เล่นที่มี ANTE
เขามองว่าเป็นเกมที่สนุกและมีข้อดีมากมาย เช่น
- GTO Wizard เอาเปรียบคุณได้ยากขึ้น
เนื่องจาก เกมดังกล่าวมีโอกาสเกิด Multiway-Pot ได้บ่อยขึ้น ทำให้การนำ Solver มาช่วยวิเคราะห์ยังไม่สามารถทำได้แม่นยำ - มีการเล่น Post-Flop มากขึ้น
โครงสร้าง ANTE ทำให้มีเงินใน Pot มากขึ้น ซึ่งเรียกว่า Dead Money สิ่งหนึ่งที่แตกต่างระหว่าง Cash Game ออนไลน์ กับการเล่นในคาสิโน ก็คือ- คาสิโน จ่ายค่าธรรมเนียมเป็นรายชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง
- ออนไลน์ คิดค่าธรรมเนียมทุกครั้งที่เล่น Post-Flop
ดังนั้นหากผู้เล่นมืออาชีพต้องตัดสินใจระหว่างการ Flat-Call และ 3-Bet
พวกเขามักเลือก 3-Bet เพราะมีโอกาสชนะก่อน Post-Flop ทำให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
- ผู้เล่นสไตล์ Nit ลดลง
สไตล์การเล่น Loose-Aggressive นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น- ถ้าคุณนำไพ่ 7-5 suited ไปเล่น Cash Game ทั่วไป (≤100BB)
- คุณจะโดน Squeeze จนไม่คุ้มค่าในการ Call
- หรือโดนกำจัดออกจากเกมง่าย ๆ แม้ไม่ถึง Turn
แต่ถ้าเล่นด้วยชิป Deep-Stack (200-500BB)
- โอกาสเดิมพันด้วยชิปทั้งหมดเปิดกว้าง มากกว่าไพ่ A เสียอีก
- เพราะสามารถติด Two Pair, Set หรือ Flush ได้ง่ายขึ้น
- เกมมีความหลากหลายมากขึ้นใน Flop, Turn และ River
สิ่งนี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถพัฒนาไอเดียใหม่ ๆ แทนที่จะเป็นแค่ Overpair vs Top-Pair, Top-Kicker
โครงสร้างของโป๊กเกอร์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ปัจจุบันโต๊ะโป๊กเกอร์ส่วนใหญ่เป็น 9-Handed แต่ 8-Handed อาจสมเหตุสมผลกว่า
เนื่องจากเราได้เห็นรูปแบบ 8-Handed
- ในการแข่งขัน Tournament
- ในเกม Live Cash Game ที่จัดขึ้นในรายการใหญ่ ๆ
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโป๊กเกอร์ เช่น
- การเอาไพ่หนึ่งใบออกจากสำรับ
- การเพิ่มไพ่ Joker เข้าไปในเกม
แต่แนวคิดเหล่านี้ อาจทำลายเกมโป๊กเกอร์แบบดั้งเดิมที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ
วิธีเดียวที่จะรักษาโครงสร้างโป๊กเกอร์ที่แข็งแกร่ง คือ
- เพิ่มตัวแปรที่ทำให้ Solver คำนวณได้ยากขึ้น
- ส่งเสริมการเล่น Multiway-Pot
- ใช้โครงสร้างที่มีชิปมากกว่า 100bb
ซึ่งแนวทางเหล่านี้จะช่วยลดผลกระทบของ GTO Solver และเพิ่มความสนุกให้เกม
ความคิดเกี่ยวกับการกลับเข้าร่วมการแข่งขัน (Re-Entry)
ไม่ว่าความสำเร็จจะมาจาก Buy-in เพียงครั้งเดียว หรือจากการ Re-Buy 4-5 ครั้ง ความสำเร็จก็ยังคงมีค่าเหมือนเดิม
แต่เมื่อพูดถึง Re-Entry ใน Tournament
- บางรายการแม้แต่ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ ยังคงใช้ Freezeout Format
- นั่นหมายความว่า หากคุณตกรอบแล้วจะไม่สามารถกลับมาเล่นใหม่ได้
แต่แนวทางนี้อาจไม่เหมาะสมเสมอไป
จากการศึกษาข้อมูลของผู้เล่นเมื่อปีที่แล้วพบว่า
- ถ้า Stack ที่ได้รับจาก Re-Entry มี 35bb ขึ้นไป
→ การเข้าใหม่จะให้ผลตอบแทนที่ดี ทั้งในแง่ของ ROI และรายได้ต่อชั่วโมง - ถ้า Stack ต่ำกว่า 35BB
→ ควรลงทะเบียนให้ล่าช้าที่สุด เพื่อให้ได้ ROI และรายได้ต่อชั่วโมงที่คุ้มค่ากว่า
แนวทางสำหรับทัวร์นาเมนต์แบบล่าค่าหัว (Bounty Tournament)
- ผู้เล่นมักจะ เข้าร่วมเมื่อได้ชิป 50BB ขึ้นไป
- ดังนั้น ถ้าฝ่ายจัดการแข่งขันต้องการให้ ผู้เล่นสมัครกลับเข้ามาใหม่ (Re-Entry) มากขึ้น
- การตั้งค่า Late Registration ที่ 50BB จะทำให้ผู้เล่นอยากกลับเข้ามาแข่งขันใหม่มากขึ้น
แต่หลายทัวร์นาเมนต์กลับไม่ได้ใช้ข้อมูลนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก
สรุป
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโป๊กเกอร์เป็นสิ่งสำคัญ
- Cash Game แบบ 8-Handed พร้อม ANTE อาจช่วยเพิ่มความหลากหลายให้เกมได้
- Re-Entry ใน Tournament ควรมีการวางแผนอย่างเหมาะสม
หากฝ่ายจัดการแข่งขัน ต้องการเพิ่มยอด Re-Entry พวกเขาควร
- ศึกษาข้อมูลจากผู้เล่น
- วิเคราะห์ว่าทำไมผู้เล่นถึงเลือกกลับมาเล่นใหม่
- นำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้กับโครงสร้างของทัวร์นาเมนต์
แค่ถามผู้เล่น “คุณมีเหตุผลอะไรที่สมัครเข้าแข่งขันใหม่?”
เพียงคำถามง่าย ๆ นี้ อาจช่วยให้
- ผู้เล่นได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าขึ้น
- ทัวร์นาเมนต์ดึงดูดผู้เข้าแข่งขันได้มากขึ้น
- ผลกำไรของฝ่ายจัดการแข่งขันเพิ่มขึ้น