สร้างความได้เปรียบจาก Flop ที่มีสีเดียว

Flop ที่เปิดขึ้นมามีไพ่สีเดียวกันทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Monotone (โมโนโทน) เป็นบอร์ดที่ทำให้ผู้เล่นโป๊กเกอร์เกิดความวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากความกังวลว่าคู่ต่อสู้อาจจะติด Flush หรือ หากไพ่ที่ Turn เปิดขึ้นมาเป็นสีเดียวกันอีก เป็นใบที่ 4 จะทำให้แผนการเล่นที่จะพยายามให้คู่ต่อสู้สามารถเล่นต่อ เพื่อทำกำไรต้องหยุดลง หรือไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณที่ Flop กลายเป็นไพ่ที่ไม่มีความแข็งแกร่งพออีกต่อไป

ซึ่งสถานการณ์ในการเล่นดังกล่าวสามารถเข้าใจได้ แต่ความกังวลเหล่านั้นจะทำให้คุณเล่นไพ่เหล่านี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรหากคุณไม่เรียนรู้วิธีเอาชนะมัน ความจริงก็คือการที่ใครจะติด Flush ในการเล่น ที่ Flop นั้นเป็นไปได้ยาก และหากคู่ต่อสู้ของคุณไม่ได้มี Flush ในการเล่นที่ Flop แล้ว การที่พวกเขาจะติด Flush ในการเล่นที่ Turn หรือ River ก็ยากเช่นเดียวกัน หรือ แม้แต่พวกเขาอาจจะไม่มีแม้กระทั้ง Flush Draw ด้วยซ้ำ

 

Flush เกิดขึ้นได้น้อยมากเมื่อ Pot มีขนาดเล็ก

มันเป็นการยากที่จะมีผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถติด Flush ได้ในการเล่นที่ Flop เป็นสีเดียวกันทั้งหมด หรือ Monotone Board ซึ่งโอกาสในการเล่นส่วนมากของผู้เล่นมักจะไม่ได้เล่นด้วยไพ่ที่มีสีเดียวกันมากนัก ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นเล่นด้วยไพ่สีเดียวกัน โอกาสที่จะติด Flush ก็มีน้อยกว่า 25% โดยเฉพาะในการเล่นที่มีชิปหน้าตัก 40BB โดยการ Raise จากตำแหน่ง BTN มีโอกาสเพียง 5% เท่านั้น และ ผู้เล่นในตำแหน่ง BB มีโอกาสเพียง 6% เท่านั้น

แม้ว่าไพ่ Flush จะมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์บนบอร์ดที่มีสีเดียวกันทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรกังวลมากจนเกินไป

 

ในการเล่น Pre-Flop ระหว่าง ผู้เล่นในตำแหน่ง UTG กับ BB ผู้เล่นทั้งสองจะเน้นไปที่ไพ่ที่มีสีเดียวกันมากกว่าเล็กน้อย ทำให้ผู้เล่นในตำแหน่ง UTG  มีโอกาสติด Flush เพิ่มขึ้นเป็น 6% และ BB เพิ่มขึ้นเป็น 8%

 

ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ จะมีผู้เล่นที่มี Flush-Draw บนบอร์ดที่มี สีเดียวประมาณ 25-30%

และหลังจากไพ่ที่ Flop เปิดไพ่สีเดียวกันทั้งหมด มีโอกาสประมาณ 20% ที่ Turn จะเปิดไพ่สีเดียวกับ Flop และ สูงขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับไพ่ที่คุณถืออยู่ (Blocker เช่น หากคุณถือไพ่สีเดียวกับบนบอร์ด นั่นทำให้โอกาสที่จะเปิดไพ่สีนั้นขึ้นมาลดลงไปอีก)

 

สรุปก็คือ เมื่อ Flop เปิดไพ่ที่มีสีเดียวกันทั้งหมด คู่ต่อสู้ของคุณมีโอกาสที่จะติด Flush ได้น้อยมาก และ อาจจะไม่มี Flush-Draw ด้วยซ้ำ และแม้ว่าพวกเขาจะมี Flush-Draw พวกเขาก็อาจจะไม่พัฒนาไปเป็น Flush ได้ ทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้สำหรับคุณเช่นเดียวกัน แม้ว่า Flush จะมีความสำคัญมากในบอร์ดดังกล่าว ไม่ควรทำให้คุณ ลดแผนการเล่นที่ถูกต้องในการพิจารณามาใช้ในการเล่นของคุณ

 

สถิติทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเล่นแบบ Single Raise Pot แต่มันจะต่างออกไป ในการเล่นแบบ Multiway Pot ยิ่งมีผู้เล่นใน Pot มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้นที่จะผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ถือ Flush-Draw และแน่นอนว่าหากมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งยังคงพยายามวางเดิมพันเพื่อสร้าง Pot และ มีผู้เล่นอีกคนหนึ่งยังคง Call คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าต้องมีผู้เล่นคนใดคนหนึี่งที่มีมือดังกล่าว และคุณควรระมัดระวังในการเล่นของคุณหากคุณไม่มี Flush ในมือ

 

ตัวอย่างการเล่นบน Flop ที่เป็น Monotone

การเล่นบน Monotone Board  (Flop ที่ไพ่ทั้ง 3 ใบเป็นดอกเดียวกัน เช่น K♠9♠5) ต้องอาศัยความเข้าใจในกลยุทธ์ที่สมดุล (Balanced strategy) และ การวิเคราะห์แผนการเล่นอย่างรอบคอบ เนื่องจากบอร์ดประเภทนี้สามารถเปลี่ยนไดนามิกของเกมได้อย่างมาก ต่อไปนี้คือแนวทางการเล่น: 

 

  • ประเมินสถานการณ์
    • ผู้เล่นที่ได้เปรียบตำแหน่ง (In Position – IP) เช่น Button  มี Range ในการเล่นที่กว้างกว่าและมักจะไม่มี Flush บ่อยนัก แต่สามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้มาก เพราะมีตำแหน่งในการเล่นที่ดีกว่า 
    • ผู้เล่นที่เสียเปรียบตำแหน่ง (Out of Position – OOP) เช่น Big Blind มักมีไพ่เล็ก ๆ ในช่วง (เช่น 86s, J9s) ที่ติดฟลัชหรือฟลัชดรอว์ได้บ่อยกว่า
  • วิเคราะห์ความน่าจะเป็นในการติด Flush
    • โอกาสติด Flush ในการเล่นที่ Flop ( Flopped flush) เกิดได้ประมาณ 5-8% เท่านั้น
    • หากชิปกองกลางยังมีขนาดเล็ก โอกาสที่จะมีผู้เล่นติด Flush จะยังน้อย แต่เมื่อชิปกองกลางใหญ่ขึ้น ความน่าจะเป็นที่จะมีผู้เล่นใดผู้เล่นหนึ่งติด Flush จะเพิ่มขึ้น
  • กลยุทธ์สำหรับผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง
    • สำหรับผู้เล่น Preflop Raiser
      • C-Bet ด้วยความ ระมัดระวัง
      • เดิมพันขนาดเล็ก (Small C-Bet) เพื่อควบคุม Pot และ ค้นหาข้อมูลคู่ต่อสู้
      • ใช้ไพ่ที่มี Blocker เช่น A♠ หรือ K♠ เพื่อปิดกั้นโอกาสที่คู่ต่อสู้จะมี Flush
      • Check หรือ Delay C-Bet
      • หากไม่มีไพ่ที่มี Blocker หรือ คู่ต่อสู้มีความเป็นไปได้ที่จะติด Flush ให้เลือก Check เพื่อควบคุม Pot
    • สำหรับผู้เล่น ที่เป็นฝ่าย Caller
      • เช็ก-คอล (Check-Call) ใช้กับไพ่ Draw หรือไพ่ที่มี Showdown (เช่น Pair ที่มีดอกเดียวกันหรือ Draw ระดับกลาง)
      • เล่นแบบดุดัน (Aggressive Play) หากติด Flush หรือ มี Flush-Draw ที่มีไพ่สูง เช่น Q♠J♠ อาจเลือก Check-Raise เพื่อสร้างแรงกดดัน
    • เล่นไพ่ที่แข็งแกร่งสำหรับ Value
      • หากติด Flush ที่ดีีที่สุด (Nut Flush) คุณสามารถเล่นดุดันเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ได้มากที่สุด
      • อย่ากลัวไพ่ดอกที่ 4 จนทำให้คุณพลาดโอกาสเก็บมูลค่าให้สูงที่สุดในการเล่นที่ Flop
    • ขนาดการเดิมพัน (Bet Sizing)
      • ใช้ขนาดเดิมพันเล็ก (Small Bet) บ่อยครั้งบนบอร์ดนี้ เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและควบคุมพอต
      • หากคุณติด Flush คุณอาจเพิ่มขนาดเดิมพันในการเล่นที่ Turn หรือ River
    • อ่านไพ่คู่ต่อสู้จากแผนการเล่นของเขา(Player Reads)
      • หากคู่ต่อสู้ Call หรือ Raise อย่างดุดันบนฟลอปและเทิร์น บางครั้งอาจต้องระวังว่าเขามี Flush หรือไม่
      • ผู้เล่นบางคนมักจะ Bluff บน Monotone Board เพราะดูน่ากลัว

 

บทสรุป

การจะมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งที่มี Flush บนบอร์ดที่เป็น Monotone นั้นทำได้ยาก คุณควรใช้แผนการเล่นที่ถูกต้องด้วยการ วางเดิมพันด้วยไพ่ที่ดีและแข็งแกร่งของคุณ… Slow-Play ได้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม และ อย่ากังวล กับคู่ต่อสู้ของคุณมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาไม่ได้สนใจที่จะเล่นด้วยการพยายามวางชิปเดิมพัน พวกเขาโดยส่วนมากไม่ได้ถือ Flush หรือ แม้แต่ Flush-Draw มีมือของคู่ต่อสู้อีกมากมายที่คุณสามารถทำกำไรได้ หรือ อาจทำให้เขาหมอบไพ่ที่ยังพอมี Equity อยู่ได้ง่ายขึ้น

 

เมื่อชิปกองกลางมีขนาดใหญ่ขึ้น จากการเล่นของคู่ต่อสู้ที่มากกว่า 1 คน ทำให้มีโอกาสที่จะมีผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมี Flush หรือกำลังลุ้น Flush อยู่ได้ ดังนั้นการเลือกกลยุทธ์จาก Blocker จึงมีความสำคัญมากขึ้น คุณควรพยายามเล่นอย่างถูกต้องด้วยการทำกำไรจากไพ่ที่แข็งแกร่งของคุณ และ กดดันไพ่ของคู่ต่อสู้ที่ไม่ได้ถือ Flush จนกว่าไพ่ใบที่ 4 จะเปิดขึ้นมาเป็นสีเดียวกันอีก

Share to